Ruttakorn Chanviriyawat ผู้นี้เป็นสมาชิกของขบวนการเสรีไทยเฟซบุ๊คที่ใช้ชื้อล็อกอินว่า Ruttakorn Chanviriyawat โดยแจ้งข้อมูลว่าจบการศึกษาที่ ม.เอเซียอาคเนย์ ในปี 2000 ทำงานที่ เติมฝัน@home
เขาเขียนแสดงความเห็นว่า
Ruttakorn Chanviriyawat ปรองดองกับมันไม่ได้แล้ว ต้องฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ผมว่ามันต้องมีกลุ่มนึงอยู่ กลุ่มหนึ่งตายนะ ถ้าอยู่แบบนี้ไม่จบแน่ เพราะไอ้พวกนี้เป็นเผ่าพันธุ์ ที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีเลย
ถึงเวลาที่ต้องเอาชีวิตพวกมันมาต่อชีวิตประเทศแล้ว ไม่ต้องเสียดาย ท่านประยุทธ สิ่งที่ท่านคิดจะทำ ผมว่าไม่ต้องรอแล้ว ถึงเวลาที่ต้องทำแล้วท่านประยุทธ คอมมานโด ที่จงรักภักดีหลายคน รอท่านสั่งอยู่นะครับ
---------------------------------------------------------------------------------------------------
จากความคิดของคนที่มีชื่อตามข้อความด้านบนนี้ ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ถ้าฝ่ายหนึ่ง ถือว่าส่วนน้อยในระบอบประชาธิปไตย ทำลายล้างอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งเป็นประชาชนคนส่วนมากของประเทศในระบอบประชาธิปไตย เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับตนเอง โดยลืมคำว่าคุณธรรม จริยธรรมต่อประชาชน ต่อประชาธิปไตย ถ้าคนๆหนึ่ง หรือ คนกลุ่มหนึ่ง คิดว่าการทำร้าย หรือ ฆ่าคนๆหนึ่ง หรือคนกลุ่มหนึ่ง ที่มีความคิดขัดแย้งกันทางการเมือง ไม่ผิดกฏหมาย ถือว่าเป็นความคิดและการกระทำที่ไร้ซึ่งความเป็นมนุษย์ ยกเว้นเหตุการณ์ในลิเบีย และอิรัก ฯลฯ เป็นอุทาหรณ์ สำหรับที่ชอบใช้กำลังอาวุธและความคิดกำจัดประชาชนที่มีความคิดเห็นต่าง ทางการเมือง สุดท้ายล่มสลาย อย่างอาณาจักรขนาดใหญ่ในอดีต เช่นกรีก,อียิปต์,โรมัน,เยอรมัน,สหภาพโซเวีย,จีน ฯลฯ แม้กระทั่งประเทศสยามหรือประเทศไทย ก็เปลี่ยนแปลงพัฒนาความเป็นมนุษย์ที่เป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้น มาหลายยุคหลายสมัย ประวัติศาสตร์ชาติไทยที่กล่าวขานกันมาเริ่มจากอาณาจักรสุโขทัย,อาณาจักรอยุธยา,อาณาจักรธนบุรี และอาณาจักรรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ซึ่งก็มีการเปลี่ยนแปลง พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งเรื่อยมา ถึงแม้ทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง ฝ่ายที่เสียน้ำตา เสียเลื้อด เสียเนื้อ เป็นฝ่ายนิสิตนักศึกษา ประชาชน บุคคล และกลุ่มบุคคลผู้นำประชาธิปไตย แต่การศูนย์เสียเหล่านั้นคงไม่สูญเปล่า เพราะความสงบทางการเมืองที่เกิดจากการปรามปราบ และการครอบงำไม่มีวันที่สงบได้จริง
สุดท้าย การที่มีคนตาย การที่มีคนติดคุกจากปัญหาทางการเมือง ที่สะสมมาเรื่อยๆ จะเป็นกุศลครั้งใหญ่ให้ประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปสู่ ประชาธิปไตยที่แท้จริง ในโลกประชาธิปไตยที่แท้จริงทุกคนจะต้องได้รับการคุ้มครองทางกฏหมายอย่างเทียมกัน
เขาเขียนแสดงความเห็นว่า
Ruttakorn Chanviriyawat ปรองดองกับมันไม่ได้แล้ว ต้องฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ผมว่ามันต้องมีกลุ่มนึงอยู่ กลุ่มหนึ่งตายนะ ถ้าอยู่แบบนี้ไม่จบแน่ เพราะไอ้พวกนี้เป็นเผ่าพันธุ์ ที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีเลย
ถึงเวลาที่ต้องเอาชีวิตพวกมันมาต่อชีวิตประเทศแล้ว ไม่ต้องเสียดาย ท่านประยุทธ สิ่งที่ท่านคิดจะทำ ผมว่าไม่ต้องรอแล้ว ถึงเวลาที่ต้องทำแล้วท่านประยุทธ คอมมานโด ที่จงรักภักดีหลายคน รอท่านสั่งอยู่นะครับ
---------------------------------------------------------------------------------------------------
จากความคิดของคนที่มีชื่อตามข้อความด้านบนนี้ ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ถ้าฝ่ายหนึ่ง ถือว่าส่วนน้อยในระบอบประชาธิปไตย ทำลายล้างอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งเป็นประชาชนคนส่วนมากของประเทศในระบอบประชาธิปไตย เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับตนเอง โดยลืมคำว่าคุณธรรม จริยธรรมต่อประชาชน ต่อประชาธิปไตย ถ้าคนๆหนึ่ง หรือ คนกลุ่มหนึ่ง คิดว่าการทำร้าย หรือ ฆ่าคนๆหนึ่ง หรือคนกลุ่มหนึ่ง ที่มีความคิดขัดแย้งกันทางการเมือง ไม่ผิดกฏหมาย ถือว่าเป็นความคิดและการกระทำที่ไร้ซึ่งความเป็นมนุษย์ ยกเว้นเหตุการณ์ในลิเบีย และอิรัก ฯลฯ เป็นอุทาหรณ์ สำหรับที่ชอบใช้กำลังอาวุธและความคิดกำจัดประชาชนที่มีความคิดเห็นต่าง ทางการเมือง สุดท้ายล่มสลาย อย่างอาณาจักรขนาดใหญ่ในอดีต เช่นกรีก,อียิปต์,โรมัน,เยอรมัน,สหภาพโซเวีย,จีน ฯลฯ แม้กระทั่งประเทศสยามหรือประเทศไทย ก็เปลี่ยนแปลงพัฒนาความเป็นมนุษย์ที่เป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้น มาหลายยุคหลายสมัย ประวัติศาสตร์ชาติไทยที่กล่าวขานกันมาเริ่มจากอาณาจักรสุโขทัย,อาณาจักรอยุธยา,อาณาจักรธนบุรี และอาณาจักรรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน ซึ่งก็มีการเปลี่ยนแปลง พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งเรื่อยมา ถึงแม้ทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง ฝ่ายที่เสียน้ำตา เสียเลื้อด เสียเนื้อ เป็นฝ่ายนิสิตนักศึกษา ประชาชน บุคคล และกลุ่มบุคคลผู้นำประชาธิปไตย แต่การศูนย์เสียเหล่านั้นคงไม่สูญเปล่า เพราะความสงบทางการเมืองที่เกิดจากการปรามปราบ และการครอบงำไม่มีวันที่สงบได้จริง
สุดท้าย การที่มีคนตาย การที่มีคนติดคุกจากปัญหาทางการเมือง ที่สะสมมาเรื่อยๆ จะเป็นกุศลครั้งใหญ่ให้ประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปสู่ ประชาธิปไตยที่แท้จริง ในโลกประชาธิปไตยที่แท้จริงทุกคนจะต้องได้รับการคุ้มครองทางกฏหมายอย่างเทียมกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น