วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ระบอบประชาธิปไตย อันมีรัฐธรรมนูญฉบับประชาธิปไตย เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ

ประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองสู่ระบอบประชาธิปไตย เมื่อ พ.ศ.2475 แต่ในระยะเวลา 80 ที่ผ่านมา ระบอบประชาธิปไตย เป็นเพียงสนามเด็กเล่น ที่ไม่สามารถพัฒนาการเมืองของประเทศไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่เป็นจริงได้ โดยต้องคำนึ่งถึงสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพ ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ซึ่งเป็นสถาบันหลักในการพัฒนาประเทศชาติ ทั้งมวลอย่างแท้จริง ในประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยจริงๆนั้น รัฐธรรมนูญ ถือเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศที่ได้มาโดยชอบธรรมตามระบอบประชาธิปไตย การแก้ไข ปรับปรุง ต้องเป็นไปตามกระบวนการของระบอบประชาธิปไตยที่ชอบธรรมเท่านั้น
แต่ 80 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทย ไม่ได้คำนึงถึงสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพ ที่สอดคล้องกับมาตรฐานประชาธิปไตยโลก อย่างแท้จริง แต่กลับทำให้ระบอบประชาธิปไตย  สิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาค และภราดรภาพตกอยู่ใต้อำนาจของยศฐาบรรดาศักดิ์เป็นที่ตั้ง ซึ่งขัดแย้งกับหลักการและวิธีการของระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงอย่างสิ้นเชิง ซึ่งเห็นได้จากการที่ประเทศไทย มีรัฐธรรมนูญ 18 ฉบับ เฉลี่ย ในระยะเวลา 80 ปี ประเทศไทยใช้รัฐธรรมนูญ ฉบับละ 4 ปีกว่า แสดงว่า ชนชั้นนำของประเทศ และคนบางกลุ่มทางการเมือง ไม่ได้ใส่ใจในระบอบประชาธิปไตย อย่างแท้จริง แน่นอน กลุ่มอนุรักษ์นิยม  คงไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงการเมืองการปกครองของประเทศไทยสู่ระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ไปมากกว่านี้  แต่การทำรัฐประหารรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งและชนะการเลือกตั้ง นั้นเป็นหลักการและวิธีการที่อยู่ตรงข้ามกับระบอบประชาธิปไตยของมนุษยชาติอย่างแท้จริง.  ปัญหาการเมืองของประเทศไทย ไม่ได้อยู่ที่ระบอบประชาธิปไตยที่จะสอดคล้องกับมาตรฐานของระบอบประชาธิปไตยโลก แต่ปัญหาเกิดจากการไม่ยอมรับในระบอบประชาธิปไตยและไม่คำนึ่งถึงสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาค ภราดรภาพของสามัญชนทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม และสิทธิมนุษยชนที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล
ดังนั้น เมื่อคนที่ทำตัวเป็นกลุ่มชนชั้นนำของประเทศ ซึ่งไม่ยินดีกับระบอบประชาธิปไตยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว บวกกับปัญหาตามธรรมชาติของระบอบประชาธิปไตย ในประเทศกำลังพัฒนา จึงเป็นช่องทางให้กลุ่มคนเหล่านั้น  กล่าวอ้างใช้เป็นกลยุทธ์ในการเผด็จการโดยการทำรัฐประหาร/ฉีกรัฐธรรมนูญ เป็นของเล่น ดั่งมองเห็นสามัญชนเป็นของตาย เปรียบเป็นการดูหมื่นเหยียดหยามสามัญชน  เพราะรัฐธรรมนูญตามระบอบประชาธิปไตย ถือเป็นหัวใจของมวลมนุษยชาติ
รัฐธรรมนูญ 2550  ซึงถือเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศอีกฉบับ ที่ได้มาจากการรัฐประหาร และมีผลบังคับใช้ตามระบบเผด็จการนิยม จวบจนปัจจุบัน แต่การที่รัฐบาลชุดปัจจุบัน จะยังคงนิ่งเฉย ไม่กระทำตามอุดมการณ์ ที่แปลงเป็นนโยบาย สู่การปฏิบัติเป็นรูปธรรม  เพื่อลบล้างความมัวหมองของประเทศและนำประเทศออกจากกรอบของเผด็จการอย่างเต็มตัว นั้น คงไม่ใช่วิสัยของระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เพราะผู้มีอุดมการณ์ทางการเมืองระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง นั้น ต้องแก้ไขสิ่งที่ขัดแย้ง และได้มาโดยมิชอบตามกฎหมายรัฐธรรมนูญของระบอบประชาธิปไตย ที่เป็นจริง  .
การแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 เพื่อให้เป็นรัฐธรรมนูญประชาธิปไตยอย่างแท้จริง และการออกพ.ร.บ.ความปรองดองแห่งชาติ จึงเป็นการกระทำที่ชอบธรรม ตามระบอบประชาธิปไตย และถือว่าคนการเมือง พรรคการเมือง รัฐบาลนั้น มีความจริงใจ จริงจัง และยึดมั่นในอุดมการณ์ และนโยบาย  สามารถเป็นที่พึ่งหวังของประชาชนได้อย่างแท้จริง ทั้งในยามสุขและทุกข์  จึงเป็นบทพิสูจน์อีกบทหนึ่งในศตวรรษนี้อีกครั้งว่าประชาธิปไตยที่เป็นจริงมีจริง และประชาธิปไตยที่ดำเนินการโดยนิสิตนักศึกษา คงไม่พอเพียงที่จะหยุดยั้งกลุ่มเผด็จการได้อย่างยั่งยืน ประชาธิปไตยภาคประชาชนที่แข็งแกร่ง กลุ่มคนทางการเมืองที่มีอุดมการณ์ระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง นักวิชาการทางการเมืองระบอบประชาธิปไตยและนิสิตนักศึกษา ในยุคโลกาภิวัฒน์ ที่มุ่งมั่น หยุดยั้งการปฏิวัติรัฐประหาร พร้อมกับการมีรัฐธรรมนูญฉบับจริงของประเทศ จึงเป็นการรวม 4 เสาหลัก  ชักธงไทย อวดอ้างรัฐธรรมนูญ สู่สายตาชาวโลกอย่างสง่างาม.
  "ประชาธิปไตย คือ สมาชิกของประชาคมโลก  และรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย คือ กล่องดวงใจของเพื่อนมนุษยชาติ"





 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น