วันศุกร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2555

We Can Change It.



สหพันธรัฐรัสเซีย หรือสหภาพโซเวีตในอดีตที่ปกครองโดยระบอบสังคมนิยมคอมมิวนิตส์ ปัจจุบันปกครองแบบสหพันธ์สาธารณรัฐกึ่งประธานาธิบดี เพราะสาธารณรัฐต่างๆ แบ่งแยกออกเป็นประเทศ 15ประเทศ ในปี ค.ศ.1991 จึงเกิดการล่มสลายของสหภาพโซเวีต (ข้อมูลจากวิกิพิเดีย) จึงกล่าวได้ว่าชนชั้นนำในสหภาพโซเวีตในอดีตและปัจจุบัน มีความตระหนักในความเป็นอยู่ของสามัญชนทุกเชื้อชาติ ศาสนาอย่างแท้จริง มากว่าความคงอยู่ของชาติที่มีมีความแตกแยกอย่างไร้มนุษยธรรมทั้งทางตรงและทางอ้อม ทางตรงคือการขจัดผู้คิดต่างทางการเมือง ทางอ้อมคือการปฏิวัติรัฐประหารการปกครองในระบอบประชาธิปไตยแล้วกำหนดกฎหมายรัฐธรรมนูญอนุรักษ์นิยม เพื่อระงับความเจริญงอกงามของสติปัญญาประชาธิปไตย.

พื้นฐานของระบอบประชาธิปไตย คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ซึ่งถือได้ว่าเป็นหลักการปกครองที่สอดคล้องหลักศาสนาอย่างแท้จริง การปกครองแบบเผด็จการ และสมบูรณาญาสิทธิราชย์ หรือการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่ไม่สมบูรณ์หมายความว่าไม่ตระหนักในหลักการของระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง ถือได้ว่าเป็นหลักการปกครองที่ขัดแย้งกับหลักศาสนา คือ อนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา เพราะการปกครองแบบเผด็จการ ,สมบูรณาญาสิทธิราชย์และการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่ไม่สมบูรณ์ เป็นการปกครองที่ยึดติดกับความเป็นนิรันดร์ ซึ่งสัจจธรรม นั้น ไม่มีสิ่งใดจะอยู่อย่างนิจนิรันดร์ จึงถือได้ว่าเป็นระบบการปกครองที่โกหก หลอกลวง บิดเบือนหลักของศาสนาอย่างแท้จริง ซึ่งตรงข้ามกับหลักการปกครองของระบอบประชาธิปไตย ที่สอดคล้องกับหลักของศาสนาที่ว่า "อนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา" แต่เพราะว่าคน/กลุ่มคนที่เกี่ยวข้องกับการเมือง ยังยึดติดในกิเลส ยึดติดในตำแหน่ง ยศฐาบรรดาศักดิ์ มากว่ายึดติดในหลักการปกครองระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง จึงทำให้เกิดปัญหาทางการเมืองแบบน้ำเน่าซ้ำซากอย่างน่าละอายต่อหลักคำสอนศาสนาและหลักการของระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง แต่คิดว่าปัญหาทางการเมืองของประเทศจะผ่านพ้นไปได้แน่นอน ถ้าทุกคนหันมายึดถือหลักคำสอนศาสนาและหลักการปกครองระบอบประชาธิปไตย อย่างไม่บิดเบือน.
ที่มากไปกว่านั้น ที่จะทำให้ปัญทางการเมืองของชาติผ่านพ้นไปได้  ต้องเกิดจากกลุ่มคนชั้นนำฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่ต้องยึดหลักของศาสนาอย่างแท้จริง ไม่ยึดติดความเป็นนิรันดร์อย่างผิดธรรมชาติ ,ต้องปราบปรามกลุ่มค้ายาเสพติด,กลุ่มอาชญากรรมอย่างตรงไปตรงมา ไม่ยึดติดความคิดต่างทางการเมืองในการบังคับใช้กฎหมายแก่ผู้กระทำความผิด  ในกลุ่มประชาธิปไตยนิยม ต้องมีความตระหนักในการที่จะสร้างเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพให้สามัญของชาติอย่างแท้จริง ไม่ใช่ตระหนักที่จะสร้างประวัติศาสตร์ให้ตนเองและวงศ์ตระกูลเป็นที่ตั้ง มากว่าการสร้างประวัติศาสตร์ให้ชาติไทยเจริญรุ่งเรืองเป็นที่ตั้ง ซึ่งต้องเริ่มจากความตระหนักในการลด ละเลิกการซื้อสิทธิ์ขายเสียง แต่ต้องตระหนักที่จะก่อประโยชน์ให้เกิดเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพอย่างไรให้กับประเทศชาติโดยส่วนร่วมเป็นที่ตั้ง เพราะถ้าตระหนักในเงินเป็นที่ตั้ง  มากกว่าตระหนักในการสร้างเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพ การซื้อสิทธิ์ขายเสียง การทุจริตคอร์รัปชั่น การค้ายาเสพติด  ก็คงไม่ลด ละ เลิก .
“เงินต้องไม่ได้มาเพราะการขายสิทธิ์  แต่เงินต้องได้มาหลังการไปใช้สิทธิ์  คือต้องใช้สิทธิ์ สร้างเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพ  เพื่อใช้สิทธิ์ สร้างสิทธิ์ สร้างโอกาสทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม เพื่อความเจริญรุ่งเรืองให้กับตนเอง สังคมและประเทศชาติ อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ”



               

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น