นายโคฟี อันนัน ประกาศถอนตัวจากการทำหน้าที่ทูตพิเศษสหประชาชาติและสันนิบาตอาหรับเพื่อแก้ไขวิกฤติในซีเรีย
ในระหว่างการแถลงข่าว นายอันนันกล่าวว่า ชาวซีเรียต้องการให้เกิดการปฏิบัติโดยเร็ว แต่วิพากษ์วิจารณ์คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติว่า เมื่อเวลาที่ชาวซีเรียต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน คนเหล่านี้ก็ "เอาแต่ชี้นิ้ว"และ"ใช้ปากทำงาน"เท่านั้น
ทั้งนี้ นายอันนันเป็นผู้เสนอแผนสันติภาพ 6 ข้อเพื่อยุติวิกฤติความรุนแรงในซีเรีย ได้แก่ให้รัฐบาลถอนทหารและรถถังจากเขตการชุมนุม ให้หยุดยิงวันละ 2 ชั่วโมง เพื่อส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ให้ความช่วยเหลือสามารถเข้าถึงทุกพื้นที่ ให้ปล่อยตัวประชาชนที่ถูกจับกุมในปีที่ผ่านมา และให้ยูเอ็นเข้าสังเกตการณ์การหยุดยิง อย่างไรก็ดี แผนดังกล่าวไม่เคยได้รับการยอมรับและปฏิบัติตามจากทั้งสองฝ่าย ขณะที่สถานการณ์ความรุนแรงในซีเรียยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติระบุว่า เขาขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ที่นายอันนันจะไม่ขอทำหน้าที่ดังกล่าวต่อไป หลังจากที่จะหมดภาระหน้าที่ตามกำหนดในช่วงสิ้นเดือนนี้
นายอันนันกล่าวเพิ่มเติมว่า การเสริมกองกำลังทหารเข้าไปในความขัดแย้งในซีเรีย และการขาดความเป็นเอกภาพอย่างชัดเจนภายในคณะมนตรีความมั่นคงได้เปลี่ยนแปลงสภาวะแวดล้อมโดยพื้นฐานต่อบทบาทที่เขากำลังกระทำอยู่ ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากการทับถมของการขาดความเป็นเอกภาพระหว่างประเทศต่างๆ
เขากล่าวว่า ซีเรียสามารถรอดพ้นจากภาวะเลวร้ายครั้งนี้ หากนานาชาติสามารถแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญและความเป็นผู้นำอย่างเพียงพอที่จะยอมประนีประนอมผลประโยชน์บางส่วนของตน เพื่อเห็นแก่ชาวซีเรีย ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก ที่ได้รับความลำบากอย่างแสนสาหัสมาพอแล้ว
ข้อมูลจากมติชนออนไลน์ ฉบับวันที 3 สิงหาคม 2555เวลา 09:20:50 น.***
ถ้า๊๊ตระหนักอย่างเห็นคุณค่าถึงหลักมนุษยธรรม เป็นสำคัญ เหนือสิ่งอื่นใดทั้งมวล การที่รัฐบาลของประเทศนั้น จะเข่นฆ่าประชาชนที่คิดต่างทางการเมืองทั้งทางตรงและทางอ้อมอย่างอัปยศ คงไม่เกิดขึ้น อย่างเหตุการณ์เรียกร้องประชาธิปไตยในหลายๆประเทศทั้งในอดีตและปัจจุบัน เช่น ไทย 14ต.ค.16,6ต.ค.19 ,ลิเบีย,อิยิปต์,ซีเรีย เป็นต้น แต่การที่ประเทศนั้นจะผ่านความโหดร้ายไปได้ ไำม่ใช่มีการปล่อยให้รัฐบาลของประเทศใดประเทศหนึ่งเขนฆ่าประชาชนที่คิดต่างอย่างอัปยศ เหมือนว่าโลกนี้ ไม่มีมิตรประเทศที่ยื่นอยู่บนหลักแห่งมนุษยธรรมอย่างแท้จริง การเขนฆ่าประชาชนทั้งทางตรงและทางอ้อม การจำกัดสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรของประชาชน ไม่ใช่เรื่องของประเทศใดประเทศหนึ่งคิดแล้วทำได้ตามกฏหมายของตนเอง เพราะประเทศใดที่มีกฏหมายไว้ใช้ปราบปรามประชาชนที่คิดต่าง จำกัดสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาค และภราดรภาพ และมีการบังคับใช้กฏหมายอย่างอัปยศทั้งทางตรงและทางอ้อม มิตรประเทศที่ตระหนักเห็นคุณค่าถึงหลักมนุษยธรรม เป็นสำคัญ เหนือสิ่งอื่นใด ต้องเข้าไปดำเนินการยุติเหตุการณ์อัปยศของประเทศนั้น ด้วยหลักการเพื่อมนุษยชนและสันติภาพ ได้อย่างชอบธรรม."เมื่อมนยุษย์ลืมความเป็นคน คนและสิ่งแวดล้อม ก็จะถูกกระทำอย่างอัปยศทั้งทางตรงและทางอ้อม "
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น