ปัญหาไม่ใหญ่ แต่กิเลสยิ่งใหญ่

ประชาธิปไตยต้องมีเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพ
แต่เสรีภาพ ความเสมอภาค และภราดรภาพ จะต้องไม่บิดเบือนกฏหมาย เพื่อทุจริตคอร์รัปชั่น และคำว่าชาติ ศาสนา และสถาบันพระประมุข จะต้องไม่ทำลายเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพ หรือประชาธิปไตย นี้่คือปัญหาของประเทศ.
อนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา คือแนวทางแก้ปัญหาของประเทศทั้ง 2 ปัญหาใหญ่นี้ แต่ความเสียหายของชาติ/ของโลกที่ยิ่งใหญ่ คือการทำลายชีวิตมนุษยชาติทางการเมือง เพราะชีวิตมนุษย์ไม่สามารถเอากลับคืนมาได้ และทรัพย์ เงินทองของรัฐ/ของส่วนรวม ต้องเป็นสิ่งของนอกกายและนอกใจของผู้มีอำนาจบารมี เพราะเป็นสิ่งหล่อเลี้ยงร่างกายและเป็นหัวใจของชาติ .

25 - 26 สิงหาคม 2555 ร่วมไว้อาลัยอากง

  อากง เป็นประชาชนคนไทยธรรมดาๆคนหนึ่ง ไม่มีอำนาจบารมีไปสู้กับใครถึงขั้นแตกหักได้ แต่ถ้าผู้กระทำหวังผลเพียงทำนองเชือดไก่ให้ลิงดู บอกได้เลยว่าคิดผิด ทำผิดอย่างฉกาจฉกรรจ์ เพราะนั้น คือการบ่อนทำลายชาติที่แท้จริง เพราะชาติไม่ได้หมายถึงฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดหรือสถาบันใดสถาบันหนึ่งในชาติ แต่ชาติที่แท้จริงหมายถึงชาติที่มีสถาบันทางการเมืองที่เข้มแข็งที่เป็นของประชาชน โดยประชาชนและเพื่อประชาชน โดยมีเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพของสามัญชนเป็นสำคัญ .

  คดีของอากงเป็นคดีคล้ายปัญหาไก่ กับ ไข่ อะไรเกิดก่อน ? บังเอิญปัญหา/คดีอย่างนี้เกิดในประเทศที่ระบอบประชาธิปไตยทางการเมืองที่มีสายพันธุ์ไดโนเสาร์ที่ดี เป็นสายพันธุ์กินพืช  แต่ได้กลับกลายเป็นสายพันธุ์กินเนื้อ    ผู้ที่บอกว่าไก่/ไข่มาก่อน จึงถูกกล่าวหาว่าคิดผิด ทำผิดอยู่เรื่อยมาตั้งแต่อดีตที่มีหลักฐานแสดงว่าเป็นประเทศจนถึงปัจจุบัน.

ในประเทศที่สมบูรณ์ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง คือประเทศที่ปลอดประชาชนที่ตกเป็นผู้รับโทษทางการเมืองกรณี ทายปัญหาไก่ กับไข่อะไรมาก่อน? แต่ในประเทศที่ตรงข้าม โดยที่รัฐ/ผู้มีอำนาจบารมี มีคำตอบไว้แล้ว คือ กฎหมายที่หมิ่นเหม่ต่อประชาชนที่คิดต่างทั้งทางตรงและทางอ้อม   โดยไปจำกัดเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพของสามัญชน   ที่อากงตกเป็นผู้ต้องหา และรับโทษทางการเมือง ไม่ใช่เป็นผลกรรมในชาติปางไหนหรอก   แต่เป็นผลจากกรรมวิธีในชาตินี้ของกลุ่มอนุรักษ์นิยมที่บิดเบือนการธำรงรักษาชาติ ศาสนา และสถาบันประมุข อย่างสิ้นเชิง.

  เมื่อมีการลงโทษอากง/บุคคลอื่นทางการเมืองทั้งในอดีตและปัจจุบัน  ถ้าทำให้คน/กลุ่มคนที่มีอำนาจ/บารมีในชาติหลุดพ้นจากกิเลสของยศฐาบรรดาศักดิ์  หลุดพ้นจากการทุจริตคอร์รัปชั่นต่อเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพของสามัญชน  คงไม่มีสามัญชนออกมาเรียกร้องหาความเป็นธรรมตามระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง ดั่งในอดีตและปัจจุบัน.

อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ประชาธิปไตยไทย สู่เวทีโลก

เนื้อหาส่วนหนึ่ง ของ ศปช.

“นายอัมสเตอร์ดัมยังคงยืนยันตามคำ ปราศรัยของเขาและมุ่งมั่นทำงานเพื่อนำตัวผู้นำระดับสูง (..........................) มาลงโทษในข้อหาอาชญากรรมต่อมนุษยชาติที่ก่อขึ้นในระหว่างการปรามปรามการ ชุมนุมของคนเสื้อแดงในเดือนเมษายนและพฤษภาคมปี 2553 อย่างไรก็ตาม สิ่งที่แน่นอนในครั้งนี้คือ  คนที่สังหารพลเรือนเพื่อปกป้องอำนาจและอภิสิทธิ์ของตนจะไม่สามารถรอดพ้นจาก การรับผิดในการกระทำของพวกเขาอย่างแน่นอน”

 “เราจะไม่มีวันยอมรับความพยายามใดๆ ที่จะให้ผู้ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรง ผู้ที่สูญเสีย ลืม เงียบเฉยและยอมจำนน ต่อความอยุติธรรม เราไม่มีวันยอมรับการเปลี่ยนการก่ออาชญากรรมต่อประชาชนให้เป็นสิ่งถูกกฎหมาย..เราจะไม่มีวันยอมรับวัฒนธรรมการเมืองที่ช่วยโอบอุ้มประเพณีของการปล่อยให้ผู้กระทำผิดที่มีอำนาจลอยนวล" ดร.พวงทอง ภวัครพันธุ์ หนึ่งในทีม ศปช. 

*********

มุมมองของสีเลือดเดียว  ในแง่ของการที่จะสร้างหลักถ่วงดุลในสังคมของประเทศ  ละเลิกการใช้วิธีเผด็จการทำลายระบอบประชาธิปไตยของชาติ  และไปจำกัดเสรีภาพ ความเสมอภาค และภราดรของสามัญชนของชาติ  โดยบิดเบือนวิธีการ ของคำว่า  เพื่อชาติ ศาสนา และปกป้องสถาบัน

                จากเหตุการณ์ทางการเมือง ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ฝ่ายที่กล่าวอ้างว่า เพื่อชาติ  ศาสนา และปกป้องสถาบันตามรัฐธรรมนูญ  มักใช้วิธีแบบเผด็จการทำลายระบอบประชาธิปไตยของชาติ  และไปจำกัดเสรีภาพ ความเสมอภาค และภราดรของสามัญชนของชาติ  โดยบิดเบือนวิธีการที่จะธำรงรักษา พัฒนา 3สถาบันอย่างแท้จริง  เห็นชัดเจนจากเหตุการณ์ช่วงเดือนตุลาคม พ.ศ. 2516 ,2519, พฤษภาคม 2535 และช่วงเดือนเมษายน –พฤษภาคม 2553  มีนักศึกษา ประชาชน  บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก จากการเข้าไปสลายการชุมนุมด้วยวิธีแบบเผด็จการ โดยใช้อาวุธสงคราม  จากการกระทำดังกล่าว ผู้กระทำได้รับการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข  ลักษณะอย่างนี้ ไม่ใช่กรรมของผู้บาดเจ็บและล้มตาย ที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยและความเป็นธรรม  หรือเป็นบุญวาสนาของผู้กระทำแต่อย่างใดเลย  แต่เป็นเพราะผู้สั่งให้ทำและผู้กระทำมีความเชื่อในการธำรงรักษา พัฒนาชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่บิดเบือน และหลงผิดตามกิเลสอธรรม โดยไม่คำนึงถึงคำว่า อนิจจัง(ไม่เที่ยง) ทุกข์ขัง (เป็นทุกข์) อนัตตา(ไม่ใช่ตัวตน)   ถ้าคำนึงถึงหลักการดังกล่าว  การธำรงรักษา พัฒนาชาติ ศาสนา และปกป้องสถาบันตามรัฐธรรมนูญ  คงไม่มีการทำลายระบอบประชาธิปไตย หรือการจำกัดเสรีภาพ ความเสมอภาค และภราดร โดยวิธีเผด็จการทั้งทางตรงและทางอ้อม.

ดังนั้น   การธำรงรักษาชาติ ศาสนา และสถาบันที่แท้จริง คือการให้เสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพ โดยการสร้างระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง ซึ่งต้องคำนึงถึงหลักของอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ซึ่งถือว่าเป็นพื้นฐานของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย  .

เจตนารมย์ของ ศปช.เป็นวิธีการขั้นพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ที่จำเป็นต้องต่อสู้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมขึ้นในสังคมประเทศ  โดยต่อสู้ทางกฎหมาย และหลักมนุษยธรรม ทั้งของไทย และจำเป็นต้องอาศัยหลักสากลประเทศด้วย เพราะบางประเทศออกกฎหมายมาเพื่อละเมิดระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่ออกกฎหมายเพื่อเสริมสร้างระบอบประชาธิปไตย  การดำเนินการของ ศปช.จึงเป็นไปด้วยความชอบธรรมที่จะเรียกร้องต่อศาลไทย และศาลโลก  เพื่อต่อไป สามัญชนของชาติจะได้ไม่โดนทำร้ายอย่างไร้มนุษยธรรมอีกต่อไปทั้งในปัจจุบันและอนาคต   ผู้กระทำต่อระบอบประชาธิปไตยก็จะไม่เป็นองคุลีมารที่ฆ่าสามัญชน เพื่อ3 สถาบันของประเทศ หรือ องคุลีมารที่คอยทำลายระบอบประชาธิปไตยทั้งทางตรงและทางอ้อมของประเทศอีกต่อไปตราบนานเท่านาน.

การบิดเบือน คือการทุจริตคอร์รัปชั่นทั้งระบบ

การปกครองที่มีประเทศต่างๆทั่วโลกใช้กันมากในปัจจุบัน คือการปกครองระบอบประชาธิปไตย ซึ่งการปกครองในระบอบประชาธิปตย แยก เป็น แบบราชาธิปไตยของอังกฤษ,ญี่ปุ่น,นอรเวย์ และประเทศอื่นๆในยุโรป ,แบบประธานาธิบดี และแบบกึ่งประธานาธิบดี สำหรับประเทศไทยในอดีตปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เริ่มตั้งแต่อาณาจักรสุโขทัย,อยุธยา,ธนบุรี และ รัตนโกสินทร์  แต่ในวันที่ 24 มิถุนายน 2475  คณะราษฎร์ ได้เปลี่ยนแปลงการปกครอง มาเป็นแบบราชาธิปไตย หรือ การปกครองแบบประชาธิไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  ปัญหาของประเทศ เช่น ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น,ปัญหายาเสพติด,ปัญหาความคิดต่างทางการเมือง,ปัญหาความยากจน,ปัญหาอาชญากรรม,ปัญหาการว่างงาน,ปัญหาเกี่ยวกับการศึกษา,ปัญหาทำลายสิ่งแวดล้อม,ปัญหาภัยแล้ง ,ปัญหาน้ำท่วม,ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการพนัน  ในอดตีมีไว้อย่างไร  ในปัจจุบันก็ยังมีปัญหานั้นอยู  แต่รูปแบบวิธีการของปัญหาที่ก่อขึ้น มีรูปแบบที่พัฒนาแยบยลสูงมากขึ้นตามบริบท และการแก้ไขป้องกันก็มีวิธีการพัฒนาที่แยบยลเป็นสากลมากกว่าตัวปัญหา   จึงกล่าวได้ว่าประเทศกำลังพัฒนา ปัญหาในประเทศก็กำลังพัฒนาเช่นเดียวกัน  และไม่ว่าจะมองย้อนไปในอดีตออกไปไกลแค่ไหน จนมาถึงปัจจุบัน ประเทศก็ยังมีปัญหานั้น สำหรับปริมาณของปัญหาและคุณภาพของการแก้ไขและป้องกันปัญหาก็ขึ้นอยู่กับว่าทุกคนและรัฐบาลของชาติตระหนักและเอาใจใส่ต่อการแก้ไขและป้องกันปัญหามากน้อยเพียงใด.
  การเมืองการปกครองที่เป็นมาตรฐานสากล โดยคำนึงถึงเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพ โดยเ้ฉพาะสามัญชน คือการปกครองระบอบประชาธิปไตยสากล ไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตยตามบริบทที่มีการละเมิดสิทธิเสรีภาพประชาธิปไตยและมนุษยชนอย่างในอดีตและปัจจุบัน   เพราะการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง เป็นการปกครองที่ปลดปล่อยมนุษย์ให้หลุดพ้นจากสังคมศักดินา ซึ่งประเทศต่างๆเกือบทั่วโลกมองว่าการปกครองที่เอารัดเอาเปรียบคนด้วยกันเอง ละเมิดสิทธิมนุษยชนละเมิดเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรของสามัญชนอย่างไม่มีเหตุผล จนก่อเป็นปัญหาทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ภายในประเทศมากที่สุด คือ การปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์และเผด็จการ.
จากปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นในอดีตถึงปัจจุบัน  ซึ่งมีอยู่ในทุกสัดส่วนของประเทศนั้น ซึ่งระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง โดยใช้อำนาจของรัฐสภา และศาลที่ยึดติดในความเป็นชาติจริง จึงจะสามารถแก้ไขและป้องกันปัญหานี้ได้ โดยการดำเนินการตามแนวทางของรัฐสภาและศาล ตามระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง  แต่ปัญหาจะบานปลายและยกระดับขึ้น เมื่อรณรงค์ใช้คำว่าเพื่อชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์  โดยไม่คำนึ่งถึงเสรีภาพ ความเสมอภาค และภราดรภาพ เข้ามายุ่งเกี่ยวกับปัญหา เพราะเป็นการชี้นำให้อัฉริยะทางอธรรมสร้างและหากินกับปัญหาของประเทศและยากต่อการแก้และป้องกันปัญหามากขึ้นอีก  เหมืิอนกับคน/กลุ่มคนที่ปากท่องเป็นนกแก้ว นกขุนทองว่าเพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษตริย์  แต่คน/กลุ่มคนเหล่านั้นใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญและวิธีการแบบเผด็จการ อยู่เหนือสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญประชาธิปไตยที่แท้จริงและสิทธิมนุษยชนของสามัญชน จึงเป็นการขยายพื้นที่ของปัญหาให้เพิ่มมากขึ้น จึงถือว่าเป็นการทุจริตคอร์รัปชั่นต่อเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพของสามัญชน เป็นการทุจริตคอร์รัปชั่นที่ต้องโทษอย่างมหันต์ตามกฏหมายอาญาประชาธิปไตยโลก อย่างซัดดัม ,กัดดาฟี่ ,ผู้นำเขมรในอดีตที่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ประชาชนฝ่ายตรงข้าม   หรือแม้แต่ราชวงศ์ชิงของจีนก็ไม่อาจอยู่เหนือประชาธิปไตย เป็นต้น แต่คน/กลุ่มคนในประเทศไทย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการฆ่านักศึกษา ประชาชน ในเหตุการณ์ 14 ต.ค.16,6ต.ค.19, พฤษภาทมิฬ พ.ศ.2535 และการสลายการชุมนุมของกลุ่มนปช.ที่สี่แยกราชประสงค์ หลังรัฐประหาร 2549 กลับได้รับการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แทนการรับโทษ นี้หรือประเทศที่มีชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่จริงลักษณะอย่างนี้  ซึ่งจากการฟัง อ่าน เห็นและสัมผัสแล้ว เป็นการบิดเบือนสร้างความเสื่อมเสียให้กับทั้ง3สถาบันของประเทศโดยสิ้นเชิง.
 สามัญชน คือคนที่เป็นมนุษย์ที่ประเสริฐแล้ว จึงรู้จักเรียกร้องเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพ จึงยินดีกับประเทศชาติในส่วนที่สามัญชนคนไทยมีความตระหนักในระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เพราะชีวิตของสามัญชนที่มีเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพ สำคัญยิ่งกว่าเงินตรา  ที่หาสิ่งใดๆเทียบค่าได้  การทุจริตคอร์รับชั่นเงินตราที่เป็นสิ่งมีค่าของคน ก็เป็นการได้มาของสิ่งมีค่า ที่ไร้ค่าอย่างสิ้นเชิง และการทำให้ของไร้ค่ามีค่าเป็นเงินก็ไร้ค่าอย่างสิ้นเชิง  เช่นค้ายาเสพติด.
ดังนั้น การทำสิ่งที่มีค่าให้เกิดคุณค่าที่สำคัญอย่างยิ่งต่อชีวิตมนุษย์อย่างแท้จริง คือการทำให้ประเทศชาติมีคุณค่าจากความเป็นเอกราชอย่างแท้จริง คือไม่ยึดติดกับสิ่งที่บอกว่ามีค่า ที่ไร้ค่าอย่างสิ้นเชิง โดยผ่านคำว่า"ชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์   แต่ต้องสร้างสิ่งที่มีค่าให้เกิดคุณค่า มากกว่าเงินตรา วัตถุสิ่งของ อำนาจ บารมี และยศถาบรรดาศักดิ์ ให้เป็นสิ่งที่มีค่าและเป็นคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ต่อวิถีการดำรงชีวิตของประชาชนอย่างแท้จริง  สิ่งนั้นคือ เสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพ โดยระบอบประชาธิปไตย ที่เป็นของประชาชน โดยประชาชนและเพื่้ิอประชาชน ซึ่งเป็นวิธีการแก้ปัญหาเพื่อประเทศชาติทั้งระบบอย่างแท้จริง.

 

3 แพร่ง

เมื่อไรที่คน/กลุ่มคนใดตระหนักในสถาบันชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ แบบบิดเบือนจากความเป็นจริงของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง คือยกย่องให้อยู่เหนือสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรของสามัญชน เมื่อนั้นปัญหาสังคมทางการเมืองของประเทศชาติ  ก็ยังมีอยู่จวบจนทุกวันนี้ เพราะการทำเพื่อชาติ ฯ ไม่ได้หมายถึง ทำเพื่อ 3 สถาบันนี้ แต่ต้องทำเพื่อสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพของสามัญชนที่จะอยู่คู่กับชาติอย่างมีเอกราชทั้งภายในและภายนอกประเทศ  เอกราชภายในประเทศชาติ หมายถึง ไม่ถูกปกครองด้วยระบอบเผด็จการ ,ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ หรือการจำกัดสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรของสามัญชน  เอกราชภายนอก หมายถึง ไม่ตกอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญของประเทศใด.
หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองของคณะราษฎร พ.ศ.2475 ก็ยังมีคน/กลุ่มบุคคลที่ใช้ 3 สถา่บันนี้แบบบิดเบือนเรื่อยมา ให้อยู่เหนือสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพของสามัญชนเช่นทำการรัฐประหาร,การสลายการชุมนุมของนักเรียน นักศึกษา ประชาชนที่เรียกร้องประชาธิปไตยทั้งในอดีตและปัจจุบัน เช่นในวันที่ 14 ต.ค.16,6ต.ค.19 ,การสลายการชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์ และการบังคับใช้กฏหมายอาญากับคน/กลุ่มคนที่คิดต่างทางการเมืองหรือคิดตรงข้ามกับคน/กลุ่มบุคคลที่ใช้3สถาบันคลุมสามัญชน.
  ศ.ดร. ปรีดี พนมยงค์ มหารัฐบุรษของชาติไทย และบุคคลอื่นๆอีกมาก ที่ทำเพื่อชาติอยางแท้จริง เพื่อ สามัญชนชองชาติให้มีสิทธเสรีภาพความเสมอภาคและภราดรภาพ กลับต้องโดนคดีอาญาทางการเมืองของคน/กลุ่มคนที่เต็มไปด้วยอำนาจทีลุ่มหลงในกิเลสของยศและสังคมศักดินา   สิ่งนี้ไม่ใช่เป็นกรรมของท่านตามความเชื่อของคน/กลุ่มคนที่ใช้ศาสนาแบบบิดเบือนอยู่เหนือสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพ แต่มันเป็นกรรมวิธีการของคน/กลุ่มคนที่ลุ่มหลงในกิเลสความเชื่อในสมมุติเทพ มากกว่าหลักศาสนาที่แท้จริง ไม่อย่างนั้น  ประวัติศาสนาพุทธ  เจ้าชายสิทธัตถะคงไม่หนีออกบวช  หรือประวัติศาสนาคริสต์ เป็นต้น พระเยซูคริสต์  ที่ยอมให้ทหารของปุโรหิตจับกุมและตรึงไม้กางเขน โดยทรงห้ามสาวกไม่ให้สู้รบกับทหารของปุโรหิต จึงเป็นข้อมูลทำให้คน/กลุ่มคนที่ยึดหลักในศาสนาที่แท้จริงสร้างระบบการปกครองที่ปลดปล่อยสามัญชน ออกจากการเป็นทาสของสังคมศักดินา  เพื่อให้สามัญชนในชาติและโลก ได้มีสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพ โดยใช้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง อย่างการเลิกทาสของมหาบุรุษประชาธิปไตยของโลก ประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอลน์ ของสหรัฐอเมริการ ,การปฏิวัติในฝรั่งเศส,จีน,รัสเซีย และการปฏิรูปการเมืองการปกครองในญี่ปุ่น เป็นต้น  ที่ไม่ใช่การปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยของสมบูรณาญาสิทธิราชย์ หรือ ประชาธิปไตยแบบใช้ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ แบบบิดเบือนเพื่ออยู่เหนือสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพของสามัญชน หรืออยู่เหนือประชาธิปไตยของชาติ.

3 หว่ง ทำลาย หว่ง

1.หว่งชาติ หว่งการทำลายระบอบประชาธิปไตย 

2.หว่งศาสนา ห่วงการใช้คำสอนศาสนาแบบบิดเบือนคำสอนบ่อนทำลายมนุษย์ที่คิดต่างเช่นในเหตุการณ์ฆ่านักเรียน นักศึกษาในวันที่ 14ต.ค.16,6ต.ค.19 มีคนบอกว่า" ฆ่าคอมมิวนิสต์ไม่ปาบ เหมือนฆ่าปลาใส่บาตรพระ"เป็นการใช้คำกล่าวอ้างฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา แบบมัดมือฆ่า  การฆ่าคนเพื่อพระมีแต่ในระบบเผด็จการของคน/กลุ่มคนที่ยังหลงใหลอยู่กับรูป รส กลิ่นเสียงของสมมุติเทพ

3.ห่วงสถาบัน หว่งการใช้สถาบันทำลายสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพของสามัญชน จนนำความเสื่อมเสียสู่สถาบันได้อย่างที่เป็นอยู่ในอดีตและปัจจุบัน ผู้มีศีล สมาธิและปัญญา จึงต้องพึงระวังการใช้ความรุนแรง/บังคับใช้กฏหมายกับคน/กลุ่มคนที่คิดต่างตามระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง เพราะวิธีการปกป้องสถาบันในอดีต/ปัจจุบัน ไม่สามารถใช้กับเหตุการณ์ในวันพรุ่งนี้/อนาคตได้อีก  เพราะสิ่งเหล่านี้เปรียบเสมือนกระดาษ เป็นเรื่องละเอียดอ่อนอยู่กับธรรมชาติได้ แต่ไม่สามารต้านทานกับดิน น้ำ ลม ไฟ ซึ่งเป็นธาตุ 4 ของธรรมชาติที่มีอยู่จริงได้.

การประท้วงของพธม.ในสหรัฐฯ   เป็นสิทธิในประเทศมหาประชาธิปไตย แต่เสียหาย  3สถาบันของประเทศไทย ดูจากภาพกลุ่มผู้ชุมนุม  เพราะคนที่พธม.กำลังต่อต้านทุกรูปแบบอยู่ทั้งในอดีตและปัจจุบันนั้น คือบุคคลที่ประชาชนส่วนมากของประเทศเขายอมรับ ทั้งทางตรงและทางอ้อม ทางตรงตั้งแต่ปี 2544-2549 ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี ทางอ้อม หลังรัฐประหาร2549 พรรคไทยรักไทย,พรรคพลังประชาชน,พรรคเพื่อไทย ก็ยังได้รับเลือกตั้งเป็นรัฐบาล ตามระบอบประชาธิปไตย  ที่สำคัญการรัฐประหาร พ.ศ. 2549 เป้าหมายหลัก คือการจำกัดสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพของสามัญชนทางการเมือง จะเห็นจากเนื้อหาของรัฐธรรมนูญ 2550 และการบังคับใช้กฏหมายรัฐธรรมนูญและกฏหมายประกอบรัฐธรรมนูญ.

 ในประเทศมหาประชาธิปไตย โดยเฉพาะสหรัฐฯฯลฯ ปธน.มาจากการเลือกตั้งในประเทศมหาอำนาจประชาธิปไตย  ปธน.ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประเทศที่มีระบบสังคมศักดินา จึงเป็นเหมือนการนำระบบสังคมศักดินา ไปทำลายประชาธิปไตย ในดินแดนมหาประชาธิปไตยโลก.

  ระบบการปกครองที่ขาดหลักสิทธิมนุษยชนมากที่สุด คือระบบแบบเผด็จการและสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เพราะกลุ่มคนที่นิยมการปกครองแบบ 2 ระบบดังกล่าวนี้ ยึดถือผู้นำเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คิดต่างไม่ได้ต้องได้รับโทษอย่างมหันต์ จึงเป็นการปกครองที่ทำลายมนุษย์ทั้งทางตรงและทางอ้อม อย่างที่เห็นทั้งในอดีตและปัจจุบัน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ  ประเทศเกือบทุกประเทศในโลกนี้ จึงหันไปนิยมการปกครองแบบประชาธิปไตยที่แท้จริง เพราะเป็นระบบการปกครองที่คำนึงอย่างหนักแน่นในเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรอย่างแท้จริงของความเป็นมนุษย์ที่เกิดขึ้นมาอยู่บนโลกใบนี้.

เหตุการณ์ ที่พธม.ประท้วงขับไล่คนไทยในต่างประเทศ เข้าข่ายเหมือนประวัติศาสตร์จีน สมัยราชวงศ์ชิง ที่ใช้คนของราชสำนัก  ตามล่าคน/กลุ่มคนที่สนับสนุน ดร.ซุนยัตเซ็น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จนล่มตายเป็นจำนวนมาก แต่สุดท้ายวิธีการของคน/กลุ่มคนราชสำนักแบบโหดเหี้ยมทั้งทางตรงและทางอ้อม ก็ไม่สามารถปกป้องรักษาราชวงศ์ชิงเอาไว้ได้ เพราะใช้วิธีการเต็มไปด้วยกิเลส ความโลภ โกรธ หลงในระบบสังคมศักดินา   ไม่พัฒนากิเลสในความเป็นมนุษย์ของคนที่แท้จริง คือเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดร  ราชวงศ์หมิงของจีน จึงล่มสลาย เพราะคนของราชสำนัก  รวมไปถึงประวัติศาสตร์ของ       ฝรั่งเศล ,   รัสเซีย  เป็นต้นที่ระบอบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ยิ่งใหญ่ แล้วล่มสลาย  อย่างประเทศในเอเชียเช่น ญี่ปุ่น ที่ใช้สถาบันจักรพรรดิ์ สร้างและขยายอาณาเขตทำสงครามมหาเอเชียบูรพา ในสงครามโลกครั้งที่ 2 สุดท้ายต้องยอมรับในความผิดพลาด จึงหันมาสร้างชาติด้วยระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง และยิ่งใหญ่ตามใจหวังตามมาตรฐานโลกประชาธิปไตย จวบจนปัจจุบัน.

"ชาติ ไม่มีตัวตนที่บ่งบอกว่าหมายถึงใคร แต่มนุษย์ทุกคนเป็นสัญลักษณ์/ตัวตนของชาติ" เมื่อไรที่มีคน/กลุ่มคนในประเทศตระหนักให้ชาติมีตัวตนและตระหนักว่าคนต้องเป็นของชาติ เมื่อนั้น คือ ระบบทาสที่แอบแฝงในประเทศนั้น และระบบทาสของชาติทำนองนี้จึงเป็นภัยต่อชีวิตมนุษย์ที่คิดต่างทั้งในประเทศและโลกอย่างมหันต์.

   

การแก้ไขปัญหาภาคใต้ ตามแนวทางของปรีดี พนมยงค์

มองมุมใหม่ : ชำนาญ จันทร์เรือง  กรุงเทพธุรกิจ วันพุธที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2549
ปัญหาภาคใต้ที่กำลังลุกลามและเพิ่มความรุนแรงขึ้นทุกเมื่อเชื่อวันในปัจจุบันนี้ ได้สร้างความตื่นตระหนก แก่ประชาชนผู้รักสันติทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นไทยพุทธหรือมุสลิม การแก้ไขปัญหาของรัฐบาลที่พร่ำบอกตลอดเวลาว่า “มาถูกทางแล้ว” ก็ไม่บังเกิดผล มีแต่จะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งก็น่าเห็นใจต่อทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา ที่พยายามหาวิธีดับไฟแห่งความรุนแรงนี้ลงให้ได้ ผมจึงอยากจะนำเสนอแนวความคิดที่เห็นว่า น่าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ต่อการแก้ไขปัญหานี้ โดยนำเสนอแนวความคิดของนายปรีดี พนมยงค์ รัฐบุรุษอาวุโส ที่ได้ให้ความหมายของคำว่า
“ประชาธิปไตย” หมายถึง ความเป็นใหญ่ของประชาชน และปวงชนต้องมีสิทธิและหน้าที่ของมนุษยชน
“สามัญชน” หมายถึง ชนจำนวนส่วนมากที่สุดของประชาชน
“อภิสิทธิ์ชน” หมายถึง ชนจำนวนส่วนข้างน้อยที่สุดของปวงชน ได้แก่นายทุน ที่มีฐานะดีที่สุดยิ่งกว่าคนจำนวนมากในชาติ รวมถึงสมุนที่ต้องการรักษาอำนาจและสิทธิของอภิสิทธิ์ชนไว้
“รัฐธรรมนูญ” หมายถึง กฎหมายว่าด้วยระเบียบการปกครองแผ่นดินหรือรัฐ
ถ้ารัฐธรรมนูญฉบับใด ให้ถือมติปวงชนเป็นใหญ่ และให้สิทธิของมนุษยชนแก่ประชาชน รัฐธรรมนูญฉบับนั้นก็เป็นประชาธิปไตย ถ้ารัฐธรรมนูญฉบับใดถือตามความเห็นชอบของอภิสิทธิ์ชน และจำกัดสิทธิมนุษยชนที่ประชาชนพึงมีได้ รัฐธรรมนูญนั้นก็ไม่ใช่ประชาธิปไตย
ท่านได้ตั้งข้อสังเกตไว้เมื่อปี 2514 เกี่ยวกับ “เอกภาพของชาติกับประชาชาติไทย” ซึ่งประเสริฐ ชัยพิดุสิต เรียบเรียงไว้ มีเนื้อหาโดยสรุป ดังนี้
1) การรักปิตุภูมิยังมิได้หมดไป ยิ่งประกอบด้วยท้องที่นั้นมีศาสนาต่างกัน หรือศาสนาเดียวกันแต่นิกายต่างกัน กับพลเมืองส่วนข้างมากของชาติที่รวมกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแล้ว การรักปิตุภูมิท้องที่ก็ยิ่งลึกซึ้ง
2) ริ้วรอยแห่งความแตกต่างในเชื้อชาติ หรือท้องที่โดยเฉพาะยังมีอยู่ ดังเช่น ท้องที่ของประเทศไทย ซึ่งคนสัญชาติไทยในท้องที่นั้นๆ พูดไทยไม่ได้ หรือพูดไทยได้ แต่แปร่งมากจนคนไทยภาคกลางเข้าใจยาก คนท้องที่เดียวกันชอบพูดภาษาท้องถิ่นหรือสำเนียงตามท้องถิ่นของตน
3) บางแคว้นบางเขตภายในชาติยังแสดงสัญลักษณ์ว่ามีเจ้าของตนโดยเฉพาะ เช่น เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ถึงแก่พิราลัย ประมาณ 6 ปี ภายหลังอภิวัฒน์ (พ.ศ.2475) เจ้าผู้ครองนครลำพูนถึงแก่พิราลัย ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 พระยาพิพิธราชาแห่งยะหริ่ง และพระยาภูผาราชาแห่งระแงะ สิ้นชีพราวๆ ปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือภายหลังนั้นไม่นาน
4) กลุ่มต่างๆ ภายในชาติหนึ่งๆ ยังมีจิตสำนึกรักปิตุภูมิท้องที่ของแต่ละกลุ่มชนอยู่ ถ้ามีทั้งภาษาและศาสนาแตกต่างกันกับชนส่วนข้างมากของชาติ ก็ยิ่งเหนียวแน่นมาก
ในประเทศไทย ภายหลังรัฐประหาร (8 พ.ย.2490) รัฐบาลได้จับกุมอดีตผู้แทนราษฎรชาวอีสานหลายคน มาฟ้องศาลฐานกบฏแบ่งแยกดินแดน
ในสมัยรัชกาลที่ 5 มีกรณีเงี้ยวในภาคพายัพ กรณีราชาแห่งปัตตานีชื่ออับดุลกาเด ถูกกักตัวที่พิษณุโลก เมื่อกลับไปปัตตานี ก็คิดแยกดินแดนอีก
เรื่องต่างๆ เหล่านี้ เราต้องสังเกตไว้เพื่อหาทางที่ถูกต้อง ป้องกันมิให้เรื่องขยายตัวไป เพื่อความเป็นเอกภาพของชาติไว้
ก) วิธีการของอังกฤษ สวีเดน เนเธอร์แลนด์ รัฐบาลของชนส่วนมากในชาตินั้นๆ คำนึงให้เพียงพอถึงความรู้สึกรักปิตุภูมิท้องที่ของแต่ละกลุ่มชน ว่ามีมากมายเหนียวแน่นขนาดไหน ผลจึงบังเกิดขึ้นธรรมชาติแห่งการรักปิตุภูมิท้องที่
ข) วิธีการเผด็จการ เช่น ฮิตเลอร์ หรือ มุสโสลินี ใช้วิธีบังคับแต่ไม่สามารถทำลายจิตใจรักปิตุภูมิท้องที่ของชนชาติต่างๆ ในเขตนั้นได้
ค) วิธีการของสวิตเซอร์แลนด์ พลเมืองประกอบด้วยชนชาติพูดภาษาฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาเลียน แยกออกเป็นแขวงๆ แต่ละแขวงมีสิทธิการปกครองตนเอง ใช้ภาษาของตนเอง แล้วรวมกันเป็นสมาพันธรัฐมีรัฐบาลกลางเดียวกัน ไม่ปรากฏว่ามีชนชาติใดในสวิตเซอร์แลนด์ดิ้นรนปลีกตนออกมาตั้งเป็นชาติเอกเทศต่างหาก
ง) วิธีประชาธิปไตย ประธานาธิบดีลินคอล์นให้ไว้คือ การปกครองโดย “รัฐบาลของราษฎร โดยราษฎร เพื่อราษฎร” ถ้าทำตามนี้ได้จริง เอกภาพของชาติก็เป็น “เอกภาพของราษฎร โดยราษฎร เพื่อราษฎร” เป็นความเต็มใจของราษฎรเองที่รักษาเอกภาพของชาติ วิธีประชาธิปไตยดังกล่าวนี้ เป็นการนำไปสู่รากฐานแห่งจิตสำนึกของมนุษย์ ที่จะให้มีความรู้สึกในการต้องการเอกภาพของชาติ
จ) มนุษย์อยู่ได้ด้วยการมีปัจจัยดำรงชีพและมีระบอบการเมืองประชาธิปไตยที่ให้สิทธิมนุษยชน คนส่วนมากที่ยังขาดปัจจัยการดำรงชีพอยู่นั้น ย่อมมีจิตใจในทางด้านค้นคว้าหาชีวปัจจัยในทางที่ชอบ พร้อมด้วยสิทธิมนุษยชน หากเขาไม่เห็นผลว่าได้ช่วยความเป็นอยู่ทางเศรษฐกิจ และสิทธิมนุษยชนของเขาแล้ว ก็อาจไปถือสภาพทางจิตชนิดอื่นที่ดีกว่าก็เป็นไป
จะเห็นได้ว่าถึงแม้จะเป็นความเห็นที่ให้ไว้ตั้งแต่ปี 2514 แต่ก็ยังไม่ล้าสมัยแต่อย่างใด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิธีการของสวิตเซอร์แลนด์ อังกฤษ สวีเดน เนเธอร์แลนด์ หรือแม้กระทั่งวิถีประชาธิปไตย ของอดีตประธานาธิบดีลินคอล์นแห่งสหรัฐอเมริกา ที่ขึ้นชื่อว่ามีชนหลากหลายเชื้อชาติมากที่สุดประเทศหนึ่ง
นายปรีดี พนมยงค์ เป็นสามัญชนที่สำคัญยิ่งของประวัติศาสตร์ชาติไทย เคยเป็นผู้ร่วมเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ในส่วนของคณะราษฎรฝ่ายพลเรือน เคยเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เป็นนายกรัฐมนตรี เป็น “รัฐบุรุษอาวุโส” ความสำคัญของท่านอยู่ในระดับเดียวกับเมาเซตุงของจีน โฮจิมินห์ของเวียดนาม หรือเนห์รูของอินเดีย
แต่น่าอนาถที่ท่านต้องจบชีวิตในต่างแดนดั่งผู้ลี้ภัย ในขณะที่รัฐบุรุษ 3 ท่านนั้นได้รับการปลงศพอย่างยิ่งใหญ่ในนามของรัฐ แต่ของไทยเราไม่มีการจัดงานศพ ให้สมกับเป็นผู้ที่ทำคุณประโยชน์อันใหญ่หลวงแก่ชาติบ้านเมืองแต่อย่างใด ไม่มีแม้แต่ผู้นำรัฐบาลไทยไปในงานศพของท่าน
ฉะนั้น สิ่งที่รัฐบาลพึงกระทำก็คือ การนำเอาแนวความคิดของท่านมาประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหาภาคใต้เสีย เพื่อที่จะได้เป็นคุณูปการแก่ประเทศชาติ และเป็นการสนองคุณต่อผู้ที่ทำประโยชน์ให้แก่บ้านเมือง ดังเช่นมหาบุรุษที่ชื่อ ปรีดี พนมยงค์ เคยกระทำไว้แก่แผ่นดินไทยในอดีต
*********มุมมองสีเลือดเดียว เมื่อ 11 ส.ค.2555
ปัญหาการเมือง และปัญหาภาคใต้ของประเทศไทย  ไม่ใช่เป็นปัญหาพิเศษ หรือ ปัญหาธรรมดา  ที่ไม่มีเกิดขึ้นในโลกนี้  แต่เป็นปัญหาปกติของมนุษย์ที่มีจิตสำนึกรักในชาติพันธุ์เดิมของตนเอง ที่ต้องการความเป็นตัวของตัวเอง ที่เกิดขึ้นกับทุกประเทศทั่วโลก และประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงก็สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวนี้ได้ลุล่วงด้วยดีและยั่งยืนด้วย  เพราะ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพ  ดังนั้น  เมื่อมนุษย์หลายเชื้อชาติ ศาสนา ถูกกำหนดให้มาอยู่ด้วยกันบนพื้นแผ่นดินเดียวกันอาจเต็มใจและไม่เต็มใจ  แต่การที่จะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างได้นั้น  ไม่ใช่การใช้กฏหมาย ระเบียบจำกัดสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือเข้าทำนองการเหยียดสีผิว หรือเชื้อชาติ ศาสนา  แต่ต้องให้สิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพ ในความมีจิตสำนึกรักในชาติพันธุ์เดิมของคนทุกกลุ่ม เพื่อสร้างชาติในปัจจุบันและอนาคต บนความแตกต่างทางความคิด เชื้อชาติ และศาสนา   การใช้ 3 สถาบันหลักของชาติ สร้างชาติ นี้ คือ จุดเริ่มต้นของปัญหาภาคใต้และการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เมื่อปีพ.ศ.2475 และเป็นปัญหาควบคู่กันมาจวบจนถึงปัจจุบัน   แต่การใช้คำว่า"ชาติ" สร้างชาติ บนความแตกต่างทางความคิด  ความมีจิตสำนึกรักในชาติพันธุ์เดิมของคน โดยไม่ไปจำกัดสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพ จึงเป็นการสร้างชาติในเวทีโลก และนำสู่สันติภาพ

 

กฏหมายคือลูกศรบอกประเทศ

กฏหมาย คือลูกศรที่ชี้ทางให้คนเดินไปในเส้นทางที่ไม่ขัดกับหลักศีลธรรมของแต่ละศาสนา  แต่ในทางการเมืองที่ไม่ใช่ระบอบเผด็จการและระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ถือว่า ถ้าลูกศรใดชี้ให้มนุษย์เดินไปในเส้นทางที่ขัดกับหลักเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพ แม้ว่าประเทศนั้นจะปกครองด้วยระบบใดก็ตาม คนที่มีความเห็นขัดแย้งกับสิ่งนั้น ก็พร้อมที่จะเดินย้อนศรเส้นทางเหล่านั้น ด้วยจิตใจมุ่งมั่น และพร้อมจะเสียสละ เพื่อลูกศรเส้นทางเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพ อย่างกล้าหาญ ด้วยวิธีประชาธิปไตยสากล/ด้วยความรุนแรงขึ้นอยู่กับรัฐบาลชุดนั้นๆจะเข้มงวดกับเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพของประชาชนที่คิดต่างมากน้อยเพียงใด  ทั้งนี้ เพื่อ
    3สถาบันหลักของของระบอบประชาธิปไตย คือ เสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพ เช่น เหตุการณ์ในประเทศไทย  14 ต.ค.16,6ต.ค.19,การรวมกลุ่มของนปช.และในต่างประเทศ เหตุการณ์ในอีรัก,อัฟกานิสถาน,ลิเบีย,พม่า และซีเรีย เป็นต้น
ดังนั้น การรักษาความสงบสุขภายในประเทศที่แท้จริง คือการไม่รักษาเกียรติยศชื่อเสียงของใคร แต่ต้องสร้างและรักษาเกียรติยศชื่อเสียงของประเทศชาติ  ซึ่งหมายถึง การสร้างและรักษาเสรีภาพความเสมอภาค และภราดรของประเทศชาติ  เพราะสิ่งเหล่านี้ คือพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ แต่กลับโดนจำกัดการใช้ เพราะคน/กลุ่มคนที่ห่วงแหนในอำนาจยศฐาบรรดาศักดิ์ของตนเอง จะสูญเสียและสลายไปเพียงประการเดียว   ทางศาสนา เช่น ศาสนาพุทธ พระพุทธเจ้าไม่ได้บัญญัติ และห้ามใครตรัสรู้ได้เท่าเทียมพระองค์ท่าน เป็นประชาธิปไตย หรือ ยิ่งศาสนาคริสต์แล้ว เป็นประชาธิปไตย จะเห็นว่าประเทศ ที่ปกครองระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง คือประเทศที่นับถือศาสนาคริสต์เป็นส่วนมาก  จึงกล่าวได้ว่าหลักศีลธรรมของศาสนาทุกศาสนาเป็นประชาธิปไตยอยู่แล้ว แต่คน/กลุ่มคนในประเทศนั้นๆที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ใช้และแปลหลักศีลธรรมของศาสนาบิดเบือนความเป็นจริง สร้างเป็นกฏหมาย/ลูกศร บังคับคนทั้งทางตรงและทางอ้อมให้เดินตามเส้นทางที่เป็นการรักษายศฐาบรรดาศักดิ์ของคน/กลุ่มคนของตนเองเท่านั้น ไม่ใช่ทำเพื่อประเทศชาติที่แท้จริง  การทำเพื่อประเทศชาติที่แท้จริง คือการ สร้างและรักษาเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรของประเทศชาติ.

ปัญหาทางการเมืองและชายแดนภาคใต้

ความเป็นชาติที่สมบูรณ์ ใช่เกลี้ยกล่อม หลอมใจของ คนในชาติ หรือใช้สิ่งอื่นใด ที่ปราศจากการให้เสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพ ตามระบอบประชาธิปไตย ไม่ได้ เพราะการสร้างชาติ คือการสร้างเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดร ไม่ใช่สร้างอำนาจ สร้างบารมี เหนือสิ่งเหล่านี้ หรือใช้ธงชาติเหนือสิ่งเหล่านี้ แต่ต้องใช้เสรีภาพ ความเสมอภาค และภราดรภาพ สร้างชาติ/ธงชาติ.
ในประวัติศาสตร์ ที่มีการค้าทาส นั้นคือการจำกัดเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพ ซึ่งเข้าข่ายดูหมิ่นมนุษย์ด้วยกันอย่างมหันต์  ผู้กระทำต้องได้รับโทษกฏหมายอาญาประชาธิปไตยของโลก.
ปัจจุบันในประเทศที่พัฒนาแล้ว แสดงให้เห็นว่า เสรีภาพ ความเสมอภาค และภราดรภาพ สร้างคน คนสร้างชาติจริง
ถ้ามีชาตินิยม โดยไม่คำนึงถึงเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพ คือการนิยมทำลายชาติ  และชาตินิยมจะสร้างชาติ เมื่อชาติมีเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพ  "จงลืมอดีตที่สร้างชาติด้วยสงคราม แต่จงจำอดีตและสร้างปัจจุบันที่เป็นประชาธิปไตย"อย่าง สหรัฐฯ, จีน,                                    ฝรั่งเศล,ญี่ปุ่น,รัสเซีย,เยอรมัน,พม่าฯลฯ

ภัยประเทศ สร้างภัยโลก

นายโคฟี อันนัน ประกาศถอนตัวจากการทำหน้าที่ทูตพิเศษสหประชาชาติและสันนิบาตอาหรับเพื่อแก้ไขวิกฤติในซีเรีย


ในระหว่างการแถลงข่าว นายอันนันกล่าวว่า ชาวซีเรียต้องการให้เกิดการปฏิบัติโดยเร็ว แต่วิพากษ์วิจารณ์คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติว่า เมื่อเวลาที่ชาวซีเรียต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน คนเหล่านี้ก็ "เอาแต่ชี้นิ้ว"และ"ใช้ปากทำงาน"เท่านั้น


ทั้งนี้ นายอันนันเป็นผู้เสนอแผนสันติภาพ 6 ข้อเพื่อยุติวิกฤติความรุนแรงในซีเรีย ได้แก่ให้รัฐบาลถอนทหารและรถถังจากเขตการชุมนุม ให้หยุดยิงวันละ 2 ชั่วโมง เพื่อส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ให้ความช่วยเหลือสามารถเข้าถึงทุกพื้นที่ ให้ปล่อยตัวประชาชนที่ถูกจับกุมในปีที่ผ่านมา และให้ยูเอ็นเข้าสังเกตการณ์การหยุดยิง อย่างไรก็ดี แผนดังกล่าวไม่เคยได้รับการยอมรับและปฏิบัติตามจากทั้งสองฝ่าย ขณะที่สถานการณ์ความรุนแรงในซีเรียยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง


นายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติระบุว่า เขาขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ที่นายอันนันจะไม่ขอทำหน้าที่ดังกล่าวต่อไป หลังจากที่จะหมดภาระหน้าที่ตามกำหนดในช่วงสิ้นเดือนนี้


นายอันนันกล่าวเพิ่มเติมว่า การเสริมกองกำลังทหารเข้าไปในความขัดแย้งในซีเรีย และการขาดความเป็นเอกภาพอย่างชัดเจนภายในคณะมนตรีความมั่นคงได้เปลี่ยนแปลงสภาวะแวดล้อมโดยพื้นฐานต่อบทบาทที่เขากำลังกระทำอยู่ ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากการทับถมของการขาดความเป็นเอกภาพระหว่างประเทศต่างๆ


เขากล่าวว่า ซีเรียสามารถรอดพ้นจากภาวะเลวร้ายครั้งนี้ หากนานาชาติสามารถแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญและความเป็นผู้นำอย่างเพียงพอที่จะยอมประนีประนอมผลประโยชน์บางส่วนของตน เพื่อเห็นแก่ชาวซีเรีย ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก ที่ได้รับความลำบากอย่างแสนสาหัสมาพอแล้ว
ข้อมูลจากมติชนออนไลน์ ฉบับวันที 3 สิงหาคม 2555เวลา 09:20:50 น.***

ถ้า๊๊ตระหนักอย่างเห็นคุณค่าถึงหลักมนุษยธรรม เป็นสำคัญ เหนือสิ่งอื่นใดทั้งมวล การที่รัฐบาลของประเทศนั้น จะเข่นฆ่าประชาชนที่คิดต่างทางการเมืองทั้งทางตรงและทางอ้อมอย่างอัปยศ คงไม่เกิดขึ้น อย่างเหตุการณ์เรียกร้องประชาธิปไตยในหลายๆประเทศทั้งในอดีตและปัจจุบัน เช่น ไทย 14ต.ค.16,6ต.ค.19 ,ลิเบีย,อิยิปต์,ซีเรีย เป็นต้น  แต่การที่ประเทศนั้นจะผ่านความโหดร้ายไปได้  ไำม่ใช่มีการปล่อยให้รัฐบาลของประเทศใดประเทศหนึ่งเขนฆ่าประชาชนที่คิดต่างอย่างอัปยศ เหมือนว่าโลกนี้ ไม่มีมิตรประเทศที่ยื่นอยู่บนหลักแห่งมนุษยธรรมอย่างแท้จริง  การเขนฆ่าประชาชนทั้งทางตรงและทางอ้อม  การจำกัดสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรของประชาชน ไม่ใช่เรื่องของประเทศใดประเทศหนึ่งคิดแล้วทำได้ตามกฏหมายของตนเอง เพราะประเทศใดที่มีกฏหมายไว้ใช้ปราบปรามประชาชนที่คิดต่าง จำกัดสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาค และภราดรภาพ และมีการบังคับใช้กฏหมายอย่างอัปยศทั้งทางตรงและทางอ้อม  มิตรประเทศที่ตระหนักเห็นคุณค่าถึงหลักมนุษยธรรม เป็นสำคัญ เหนือสิ่งอื่นใด ต้องเข้าไปดำเนินการยุติเหตุการณ์อัปยศของประเทศนั้น ด้วยหลักการเพื่อมนุษยชนและสันติภาพ ได้อย่างชอบธรรม."เมื่อมนยุษย์ลืมความเป็นคน คนและสิ่งแวดล้อม ก็จะถูกกระทำอย่างอัปยศทั้งทางตรงและทางอ้อม "