ประเทศปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ดังนั้นฐานะประชาชนคนหนึ่ง จึงบอกว่าทุกคนต้องยอมรับความเป็นจริง ตั้งแต่หลังการปฏิวัติ 2475 เปลี่ยนแปลงการปกครอง ผู้ที่มีแนวคิดสนับสนุนการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ยังมีและยังฉวยโอกาสใช้ความเชื่อเหล่านนั้น ทำลายประชาชนทั้งทางตรงและทางอ้อม อย่างเหตุการณ์ 14 ต.ค.2516 และ 6ต.ค.2519 และก็ต้องยอมรับความจริงความเชื่อและอุดมการณืแบบประชาธิปไตยก้าวหน้า มีการสั่งสมมายาวนาน จนนำไปสู่การปฏิวัติ 2475 และก็มีการพัฒนารูปแบบและวิธีการนำเสนอที่เป็นสากลนิยมและหลากหลายมากขึ้น จริงๆประเทศไม่ได้แตกแยกอย่างจริงจังเพราะพรรคการเมือง เพียงแต่ว่าประเทศประชาธิปไตยมีพรรคการเมืองเป็นตัวแทนของประชาชน การแสดงทางความคิดบางครั้งจึงผ่านทางพรรคการเมือง ตามระบอบประชาธิปไตย จริงๆแล้วประเทศแตกแยกเพราะความเชื่อที่แสดงออกและต่อต้านซึ่งกันและกันอย่างชัดเจน จนรู้นิสัยซึ่งกันและกันอย่างทั่วไปไปทุกมุมโลกอีกครั้ง โดยเฉพาะแนวอนรุกษ์ที่จะไม่ยอมแก้ไข พัฒนา หรือถอยหลังอีกแล้ว ทางแนวคิดประชาธิปไตยก้าวหน้า ก็พยายามจะขจัดหรือพัฒนาสิ่งต่างๆที่เป็นปัญหาต่อแนวคิดแบบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง และจะคอยทำลายอยู่ตลอดเวลาอย่างไม่มีเหตุผล จนนำไปสู่1.การก่อตั้งคณะนิติราษฎร์ แก้ไข ม.112 ของคณะผู้เชี่ยวชาญ 2. การขอแก้ไขรัฐธรรมนูญของผู้แทนฯผ่านกระบวนการรัฐสภา 3.การออกมาแสดงความคิดเห็นสนับสนุนของภาคประชาชนอย่างหลากหลายวิธี ซึ่งการต่อต้านแนวอนุรักษ์ ก็ใช้ 1 ก่อตั้งผู้สนับสนุนทางวิชาการแนวอนุรักษ์ 2. ยับยั้งกระบวนการทางรัฐสภา 3.เคลื่อนทางภาคประชาชน 4. ใช้แนวทางที่ถนัดและเป็นประเพณีนิยมสื่บมาแต่โบราณ คือ ใส่ความ สร้างความเกลียดชัง ขมขู่ เข่นฆ่าทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยใช้กระบวนการทางราชการและประชาชน เช่นลูกเสือชาวบ้านในอดีต กลุ่มกระทิงแดง กลุ่มนวพล อย่างใน 14 ต.ค.2516 และ6 ต.ค.2519 5.การออกมานอกกรอบของทหาร โดยการรัฐประหาร นี้เป็นจุดแตกหักที่สำคัญ ที่ประชาธิปไตยก้าวหน้าไม่อยากให้มีในโลกนี้ก็ว่าได้
ถ้าเราอยู่อย่างตามบริบทของตนเอง คือปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษตริย์ทรงเป็นประมุข แบบไทยๆ ประเทศไทยก็จะอยู่แบบที่มีปัญหาอย่างไทยๆตลอดไปไม่จบสิ้น เพราะเราไปลอกแบบการปกครองของเขามาแต่ย่อๆ ไปลอกแต่สว่นที่จะสร้างความนิมยมทางการเมือง แต่ไม่ลอกสิ่งที่จะสร้างสันติภาพทางการเมืองในประเทศชาติอย่างจริงจัง การอยู่ดี กินดี ไม่พอที่จะสร้างความชอบธรรมให้เกิดขึ้นกับประชาชนได้ ต้องสร้างสิทธิเสรีภาพ สร้างโอกาสทั้งทางสังคมและทางการเมือง ควบคู่กันไปด้วย ส่วนที่เป็นปัญหาและแตกแยกกันนั้น คือส่วนที่ว่าด้วยสิทธิ์เสรีภาพของประชาชน และส่วนที่เกี่ยวกับสถาบันประมุขของประเทศ นี้คือต้นเหตุและหัวใจสำคัญของปัญหาในประเทศ ควรไปขอกล้าพันธ์ อย่าไปตอนกิ่ง หรือทาบกิ่งมาประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข อย่างในเอเชีย คือ ญี่ปุ่น หรือในยุโรบ หลายๆประเทศ เช่น นอรเวย์ เป็นต้น กลับไม่ยอมนำมาแก้ไขปรับปรุงพัฒนา ให้ประเทศเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุขอย่างแท้จริง
ในอดีตฝรั่งเศลปฏิวัติ จีนปฏิวัติ สหภาพโซเวียฯลฯ การปกครองเดิมล่มสลาย เพราะไม่พัฒนารักษาสถาบันอย่างแท้จริง ตรงข้ามกับประเทศที่พัฒนาสถาบัน เช่น ญี่ปุ่น นอรเวย์ เดนมาร์ก เป็นต้นสถาบันสูงสุดของประเทศอยู่คู่กับประชาชนและประเทศชาติอย่างแท้จริง ไม่ใช่รัฐธรรมนูญกำหนดหรือจิตใจกำหนดอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ เข่นห่าประชาชนที่คิดต่างอย่างแท้จริง อย่างในอดีต ...นักต่อสู่ทางสังคมและการเมือง "วีรบุรุษ ไม่ใช่คนดีในสายตาฝ่ายตรงข้าม คนดีไม่ใช่วีรบุรุษ ของพวกเดียวกัน"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น