การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดและอาชญากรรม เปรียบดั่งการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทำลายมนุษยชาติ แต่การไปป้องกันและแก้ไขระบอบประชาธิปไตยที่จะเป็นจริง จึงเปรียบดั่งการการทำลายมนุษยชาติ (คนส่วนใหญ่ของประเทศและของโลก)
การปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง กับระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ภายใต้รัฐธรรมนูญ เพราะอย่างแรก ชื่อก็บอกความเป็นเบ็ดเสร็จในตัวอยู่แล้วทุกด้าน อย่างหลัง ก็เช่นกัน ชื่อก็บ่งบอกความสบูรณ์ที่ชัดเจนอยู่ในตัว แต่การไปจำกัดสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพ ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคมและโดยเฉพาะทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย จึงเป็นการเมืองการปกครองที่ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของการเมืองการปกครองอย่างหลัง ที่แท้จริง เพราะในความเป็นจริง ยังใช้บริบทการเมืองการปกครองแบบเดิมๆมากกว่า คำว่า "ประชาธิปไตย " ซึ่งก็ไม่แตกต่างจากคำว่า "สมบูรณาญาสิทธิราชย์ " นั่นเอง
"แก่นแท้แห่งธรรมะ เชิงศาสนา คือ ความไม่มี นอกจาก เกิด แก่ เจ็บ ตาย
เชิงวิทยาศาสตร์ คือ เหตุผล เชิงของนักปราชญา คือ สิทธิเสรีภาพ
ความเสมอภาคและภราดรภาพ เป็นสิ่งที่อยูคู่กับมนุษย์มาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ เพียงแต่ว่ามนุษย์ยุคนั้นต้องตกอยู่
ใต้คมหอกคมดาบ และแก่นแท้ของระบอบประชาธิปไตย คือ
แก่นแท้แห่งธรรมะทั้งเชิงศาสนา วิทยาศาสตร์ และเชิงของนักปราชญา
เพียงแต่ว่า ยุคนี้กลับมีการใช้อาวุธปืน การบังคับใช้กฎหมายอาญามาตรา112 และใช้คำว่าคิดล้มล้างสถาบันฯ เป็นคมหอกคมดาบ จำกัดและสกัดการเข้าถึงแก่นแท้ของระบอบประชาธิปไตย.
ดังนั้น การปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญของประเทศไทย จึงไปสอดคล้องกับการเมืองการปกครองในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ซึ่งหมายถึงไม่ใช่การเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ตามที่รัฐธรรมนูญ กำหนดโดยแท้จริง.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น