รัฐสภา คือประเทศ

 ประชาธิืปไตย คือความมุ่งมั่นอย่างแท้จริง

 ผลการเรียกร้องประชาธิปไตย คือ เสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพ

*************

ผลเผด็จการรักษาอำนาจ บารมี คือ ความอัปยศ

หลังจากที่คำวินิจของศาลรัฐธรรมนูญ ออกมาแล้วว่าไม่ขัดมาตรา68 ของรัฐธรรมนูญ2550 และถ้าแก้ทั้งฉบับควรทำประชามติก่อน หรือไม่ก็แก้ไขรายมาตรา  หมายความว่า รัฐสภาสามารถที่จะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ ทั้งแก้แบบทั้งฉบับ หรือแก้ไขแบบรายมาตราก็ได้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับรัฐสภาจะเดินหน้าแก้ไขทั้งฉบับแบบลงมติในวาระที่สาม ที่ค้างไว้ หรือทำประชามติก่อน ก็ควรต้องเป็นเรื่องของรัฐสภาพิจารณา เพราะประเทศไทยปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยแบบมีรัฐสภา  ประเทศไทยก็ควรต้องใช้รัฐสภาในการตัดสินใจ หลังจากนั้นรัฐสภาลงมติเป็นอย่างไร จึงควรต้องดำเนินการไปตามนั้น   ที่สำคัญก่อนเลือกตั้งพรรครัฐบาลประกาศเป็นนโยบายทางการเมือง เศรษฐกิจและสังคมชัดเจน ผลการเลือกตั้งชนะการเลือกตั้ง และพรรคที่ต่อต้านนโยบายแพ้การเลือกตั้ง  ดังนั้นการดำเนินการตามนโยบาย จึงต้องเดินหน้าโดยผ่านรัฐสภาก่อนเป็นลำดับแรก  "รัฐสภา คือประเทศ "

การทำลายชาติ คือการทำลายประชาธิปไตย

ปัญหาทางการเมือง ถ้าแก้ด้วยคำว่าทำเพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เมื่อนั้นคือการทำลายชาติอย่างสื้นเชิง แม้กระทั่งการเขียนและบังคับใช้กฏหมายรัฐธรรมนูญกับการแก้ปัญหาทางการเมือง ก็เป็นการทำลายชาติเช่นเดียวกัน เพราะคำว่าชาติที่แท้จริง นั้นต้องหมายถึง เสรีภาพ ความเสมอภาค และภราดรภาพ ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคมและโดยเฉพาะทางการเมือง เพราะมนุษย์เชื่อว่าว่ามนุษย์ทุกคนคือผู้สร้างตน สร้างประเทศและสร้างโลกได้ หากมนุษย์ได้รับโอกาสในสิ่งเหล่านั้น ดังนั้น การที่มนุษย์ทุกคนจะได้เข้าถึงสิ่งเหล่านั้น ก็ขึ้นอยู่กับประเทศ นั้นๆ ว่าได้สร้างโอกาสให้มนุษย์มากน้อยเพียงใด สิ่งที่จะเป็นเครื่องบ่งบอกว่ามนุษย์ในประเทศนั้นๆได้รับโอกาสมากน้อยเพียงใดนั้น คือรัฐธรรมนูญ ที่เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ แต่ไม่ถือเป็นกฏหมายสูงสุดของประเทศ ถ้ารัฐธรรมนูญที่เป็นกฏหมายสูงสุดของประเทศ ได้มาโดยกลุ่มที่ใช้อำนาจ บารมีเหนือรัฐธรรมนูญ และที่ไม่เป็นไปตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย  เพราะนั้น คือวีธีการทำลายชาติทั้งมวล
 nation destruction , be democracy destruction ,
a problem is political , if , repair with the word that , do for the nation , religion , and the great king , then nation type manner destruction , even if , writing and enforce to mark the constitution and political remedy , be nation destruction also , because , the word is that , the nation TRUE actually , that must mean , freedom , equality , and the brotherhood , both economical of , the social and political especially , because , a human believes in that , that , everybody human is self maker , build the country and can build the world , if , a human receives a chance in those thing , thus , with regard to everybody human will have appreciated those thing , as a result , depend on the country , such , that , get build how much is a chance gives a little many human ? , the thing will to is the indicator that , how much is a human in the country such receives a little many chance ? that , be the constitution , at the constitution of the country , but , do not regard mark topmost of the country , if , the constitution where is mark topmost of the country , get come to by the group that use the power , north constitution prestige , and don't be in line with the way of the democracy , destroy people kidney regime , because , The that , be V nation destruction all , 

 วิธีการทำลายประชาธิปไตยในอดีต

 วิธีการทำลายประชาธิปไตยในปัจจุบัน

*************

+

ภาพด้านล่าง ภาพแห่งการสร้างชาติและ มีชาติอยางแท้จริง

เผด็จการ รัฐประหาร เผด็จการ 18

รัฐธรรมนูญ 2550ฉบับที่ 18 เป็นรัฐธรรมนูญเผด็จการเบ็ดเสร็จ(รัฐธรรมนูญเส้นใหญ่)  การแก้ไขทั้งฉบับเป็นหนทางออกเพื่อลบภาพเผด็จการ  ถ้ามีการแก้ไขรายมาตรา ถือว่ารัฐสภากำลังสร้างรัฐธรรมนูญผักชี  เพราะภาพเผด็จการทำลายระบอบประชาธิปไตยของชาติ  คือรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2550  ซึ่งเปรียบเสมือนที่รัฐบาลทหารพม่าในอดีตรัฐประหารแล้วเปลี่ยนชื่อประเทศ จาก"เบอร์ม่า" เป็น "เมียนมาร์" ประชาธิปไตยในประเทศพม่า และสากลประเทศไม่ยอมรับ จวบจนทุกวันนี้   รัฐธรรมนูญ  พุทธศักราช 2550 ฉบับที่ 18  เชื่อว่านอกจากประชาธิปไตยของประเทศที่ไม่ยอมรับแล้ว สากลประเทศก็ไม่ยอมรับ จวบจนทุกวันนี้เช่นกัน.

ชีวิตดับสูญ ดินน้ำลมไฟ ไม่สูญสิ้น(the life takes leave of the world , four elements , do not exhaust )

 รูปแกะสลักกำแพงเบอร์ลินในอดีต  เปรียบดั่งภาพแห่งการหาเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพตามระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง
wall number sculpture chips in the past , compare with like seeking freedom picture , the equality and the brotherhood area the democracy actually TRUE , 

 การเปลี่ยแปลงการปกครอง ครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อ 24 มิถุนายน 2475 โดยคณะราษฏร์ เส้นทางสู่เสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพ
something the cradle modifies the administration , for the first time in Thailand , when , 24 June 2475 by fungus faculty , the route to the freedom , the equality and the brotherhood , 

 เหตุการณ์ 14 ตุลาคม2516 และ 6 ตุลาคม 2519 การเรียกร้องเสรีภาพความเสมอภาค และภราดรภาพ เพื่อธรรมชาติของมนุษย์ แต่การดำเนินการที่โหดเหี้ยมเกินคำว่า "มนุษย์"ของเหล่าฟาสซิสต์ เพื่ออยู่เหนือเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพ  ไม่มีเหตุผลชิ้นดี จนถึงปัจจุบัน ยังเป็นปัญหาที่คาใจกับประชาธิปไตยมาจวบจนทุกวันนี้ และต่อไปในอนาคตตราบใดที่ประเทศ ไม่มีเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรที่แท้จริง  ประวัติศาสตร์ทุึกประเทศ ไม่มีประเทศใดอยู่ได้ ถ้าปราศจากเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพที่แท้จริง เพราะประเทศไทย ก็อยู่บนโลกใบนี้กับประเทศเสรีประชาธิปไตยอีกหลายประเทศ 
14 eventses October 2516 and 6 October 2519 the calling cry equality freedom , and the brotherhood , for the nature of a human , but , cruel exceed word administration is that ,  , " , a human is " , of Fascism set , for stay freedom north , the equality and the brotherhood , have no reason good , until now , still a problem that is doubtful with the democracy comes to until nowadays , and in the future next so long as , country , have no the freedom , the equality and Paradorn actually TRUE , country history , have no which country can (stay) [doing that action] , if , without the freedom , the equality and the brotherhood actually TRUE , because , Thailand , as a result , stay on this world with free democracy country again many the country , 

 อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยหลัง2475 แต่กิเลสศักดินาของมนุษย์ยังอยู่เหนือเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพของความเป็นมนุษย์จวบจนทุกวันนี้
2475 Democracy back Monuments but , status in terms of land passion of a human remains freedom north , the equality and the brotherhood of the humanity until nowadays , 

 หอไอเฟล สูง 300 เมตร  สัญลักษณ์แห่งเสรีภาพ ความเสมอภาค และภราดรภาพ

เทพีเสรีภาพ สัญลักษณ์เสรีภาพ ความเสมอภาค และภราดรภาพ
beauty freedom queen , freedom symbol , equality , and the brotherhood , 

การรัฐประหารได้วิวัฒนาการ ในปีพ.ศ. 2549 รูปแบบหน้าใส ใจคตต่อระบอบประชาธิปไตย  ภาพอย่างนี้ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวและดอกกุหลาบปิดไม่มิด

และวิวัฒนการไปอยู่ในรัฐธรรมนูญ 2550 เป็นระบบเต็มรูปแบบของการบริหารจัดการระบบฟาสซิสต์เมืองไทย ไม่ให้ประชาธิปไตยมีเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพได้อย่างแท้จริง  หมายถึงประชาธิปไตย ต้องเป็นเมืองขึ้นของอนุรักษ์นิยม ตั้งนั้นการจำกัดเสรีภาพ ความเสมอภาค และภราดรภาพ โดยเฉพาะทางการเมือง จึงเป็นหนทางที่กลุ่มอนุรักษ์นิยมใช้เพื่อให้ทัศนคติของตนเองมีอำนาจบารมีกับประเทศไทย โดยบางครั้งไม่คำนึ่งถึงหลักสิทธิมนุษยชน เช่นการฆ่าประชาชนที่คิดต่าง เหมือนดั่งในอดีตเหตุการณ์ 14ต.ค.16และ6ต.ค.19 เป็นต้น
the coup d'etat has evolution , in year 2549 Buddhist format Eras infront clear , the mind builds [ wasp ] the democracy , a picture like this the elephant dies all over take the lotus and the rose close not entirely , and arrival scenery is in 2550 constitutions s are full format system of the administration manage Fascism Thailand system , do not give the democracy has the freedom , the equality has and the brotherhood actually , mean the democracy , must a dependency of conserve to like , stand that limitting freedom , equality , and the brotherhood , political especially , then the way that the group conserves to like to use for , the attitude of oneself is influential the prestige and Thailand , by sometimes not the word steams to arrive at human rights pillar , such as people murder that think to differ , be like like in .16 14 events district pasts and 6 .19 district etc. , 

ประชาธิปไตย เพื่อ ชาติ

การสร้าง และทำความดี ของประชาธิปไตย  คือการสร้าง และส่งเสริมสนับสนุนสถาบันของประชาธิปไตย คือ เสรีภาพ ความเสมอภาค และภราดรภาพ ด้วยระบอบประชาธิปไตย

ดังนั้น การที่จะใช้3สถาบันหลักในประเทศ เพื่อให้อยู่เหนือสถาบันหลักประชาธิปไตย  จึงเป็นการดำเนินการที่ไม่สมควรเพราะ3สถาบันของประเทศ เป็นที่พึงพิงของทุกคน

ดังนั้น การทำความดี  จึงเป็นการสร้างเสรีภาพ ความเสมอภาค และภราดรภาพ ทั้งด้านเศรษฐกิจ ส้งคม และการเมือง ให้ประชาชนทั่วถึงกันอย่างมีคุณภาพ.

ชาติ เป็นสิ่งที่ต้องตระหนักอย่างเห็นคุณค่า แม้ประชาชนแตกต่างกันทางเชื้อชาติ ศาสนา ร่างกาย สติปัญญา จิตใจ  ความคิดและ ฐานะความเป็นอยู่ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นธรรมชาติ แต่การที่จะอยู่บนความแตกต่างได้นั้น จะต้องไม่มีคำว่าชาติ เหนือสิ่งที่อยู่ในชาติ แต่สร้างสิ่งที่อยู่ในชาติให้เป็นของทุกคน อย่างแท้จริง โดยเฉพาะเสรีภาพ ความเสมอภาค และภราดรภาพ.

ศาสนา  ทุกศาสนา มุ่งให้คนมองเห็นสิ่งที่อยู่บนโลกนี้ เป็นธรรมชาติ และไม่ทำลายธรรมชาติ นอกจากการทำลายธรรมชาติตัวเอง เพื่อสร้างธรรมชาติ ด้วยจิตใจตนเองโดยระบอบประชาธิปไตย  ทางการเมือง ศาสนาไม่ใช่สิ่งอยู่เหนือความคิดเห็นทางการเมือง/อุดมการณ์ทางการเมือง แต่เป็นหลักธรรมให้กับชาติ

ประมุขของประเทศ    แบบราชาธิปไตย เป็นประมุขของชาติ อำนาจทางการเมืองตามรัฐธรรนูญของเกือบทุกประเทศ เป็นของการเมืองภาคประชาชนทางการเมือง การเชื่อมโยงสถาบันทั้งทางตรงและทางอ้อมเข้าสู่การเมือง คือการสร้างความมัวหมองให้กับสถาบันชาติอย่างไม่รู้ตัว และจะสร้างความแตกแยกมากขึ้น เพราะการเมืองไม่ยุติธรรมต่อการเมือง.

ดังนั้น การเมืองไม่ใช่ชาติ แต่ทำให้ชาติ   การเมืองไม่ใช่ของศาสนา แต่ศาสนาเป็นของชาติ ประมุขไม่ใช่สิ่งชึ้ขาดทางการเมือง แต่ประมุขเป็นของชาติ   สถาัับันของชาติ จึงไม่ใช่สถาบันทางการเมือง.

ตีตราปาบประเทศ

รัฐธรรมนูญ 2550 เขียนขึ้น เพื่อตีโซ่ตรวนประชาธิปไตย ผลจากการแปลทัศนคติของฝ่ายตรงข้

ามประชาธิปไตยป็นกฏหมายรัฐธรรมนูญอาญา 2550 เรียบร้อย รอวันจัดการเป็นรายบุคคล เป็นกลุ่มบุคคล และรายสถาบันทางการเมือง คือการยุบพรรคการเมือง ความเป็นอิสระ ด้านสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย แน่นอน ไม่มี รัฐธรรมนูญ 2550 เป็นหลักฐานที่ประจักษ์ให้ประชาชน และชาวโลกได้รับรู้ รับทราบด้วยสายตาตัวเองที่กระจ่างชัดอย่างต่อเนื่องว่า ประเทศไทยเลิกทาสไปแล้ว แต่ยังมีคนกลุ่มหนึ่งยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงทัศนคติของตนเองตามยุคสมัยได้อย่างแท้จริง  ยังตีตราปาบให้ประเทศ  จนเป็นประเพณีวัฒนธรรม สื่บเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ด้วยการทำรัฐประหาร  การเขียนรัฐธรรมนูญรัฐประหาร  และใช้รัฐธรรมนูญรัฐประหาร
จงคืนความเป็นธรรมให้ระบอบประชาธิปไตย ได้รับความเป็นอิสระ  มีสิทธิเสรีภาพและึความเสมอภาคอย่างแท้จริง การแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ทั้งฉบับโดยรัฐสภาก่อนประชามติจึงเป็นไปตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย โดยระบอบประชาธิปไตย เพื่อปลดโซ่ตรวนจากประชาชนคนไทย ให้พ้นจากระบบสังคมแบบฟาสซิสต์

 

ติดตรารัฐธรรมนูญประชาธิปไตยตามครรลองระบอบประชาธิปไตย จริง.

การแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 หลังศาลวินิจฉัย ไม่ขัดมาตรา68 และถ้าแก้ทั้งฉบับ "ควร" ทำประชามติก่อน หรือแก้เป็นรายมาตรา นั้น.

พรรครัฐบาลก่อนการเลือกตั้งและหลังเลือกตั้ง การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งฉบับคือเป้าหมาย ของนโยบาย   ที่จะสร้างมาตรฐานทางการเมืองไทยให้เป็นมาตรฐานประชาธิปไตยระดับสากล  รัฐธรรมนูญ  2550  ถือว่า เป็นกฏหมายรัฐธรรมนูญฉบับอาญา เพื่อปราบปรามประชาธิปไตยเป็นสำคัญ  ฉะนั้น จึงไม่แปลก ที่ฝ่ายตรงข้ามออกมาต่อต้านอย่างผิดหลักธรรมชาติของระบอบประชาธิปไตย  แต่ในเมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าไม่ขัด มาตรา68 การแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ จึงเดินหน้าได้อย่างสง่างาม  เพียงแต่ว่ามีเส้นทางเลือก 3 เส้นทาง  เส้นทางที่ 1 ใช้รัฐสภาลงมติวาระที่่สาม เป็นเส้นทางเดิม แต่ศาลฯใช้คำว่า"ควร"ทำประชามติก่อนถ้าแก้ทั้งฉบับ  คำว่า"ควร" ไม่ได้ห้าม แต่เป็นการแนะนำ ถ้าฝ่ายตรงข้ามจะยกมาฟ้องภายหลัง ก็คงจะฟ้องไปในทำนอง เปรียบ สัญาณไฟจราจร ไฟเหลือง ไฟแดง  และไฟเขียว  รัฐธรรมนูญ 2550 เป็นกฏหมายอาญาปราบปรามประชาธิปไตย  ผู้เขียนรู้ดีทุกมาตรา  ฝ่ายตรงข้ามเขาจึงกล้าบอกว่าพรรครัฐบาลไม่กล้าเดินหน้าลงมติวาระ สาม   แต่ถ้าพรรครัฐบาลเดินหน้าเส้นทางนี้ก็สามารถทำได้ เพราะไม่ขัดมาตรา 68 และประชาธิปไตยพรรครัฐบาลก็เข้มแข็ง  เพียงแต่จะมีการยกคำว่า"ควร"ขึ้นมาฟ้องร้องกันอีกครั้ง เมื่อนั้นศาลรัฐธรรมนูญคงงานเข้าอีกครั้ง   ที่จริงแล้วถ้าไม่ขัดมาตรา68 ก็ไม่มีอะไรอีกแล้ว เป็นเรื่องของประชาธิปไตย  หมดภาระหน้าที่ของฝ่ายกฏหมายที่จะต้องมาตีความทางการเมืองไม่จบสิ้น   จึงต้องเป็นหน้่าที่ของรัฐสภา และประชาชน ก่อนประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต้องทำประชามติ.  เส้นทางที่ 2 แก้ไขทั้งฉบับเหมือนเส้นทางที่ 1แต่ควรทำประชามติก่อนแก้ไขซึ่งเป็นการเริ่มใหม่  เส้นทางนี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่าต้องการท้าพิสูนจ์ความเข้มแข็งของพรรครัฐบาล ต้องการท้าพิสูนจ์ความเข้มแข็งของระบอบประชาธิปไตยในประเทศ  เส้นทางนี้พรรคฝ่ายค้านเตรียมข้อมูลไว้หาเสียงไม่เห็นชอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้คะแนนเสียงเห็นชอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาล ได้ไม่ถึงเกณฑ์ตามที่ฏหมายกำหนด   เส้นทางนี้ พรรครัฐบาลชนะมากกว่าแพ้ เพราะส่วนหนึ่งฐานเสียงเดิมของทุกพรรค  และ ที่สำคัญไม่ขัดมาตรา 68  ประชาชนส่วนหนึ่งคงไม่สงสัยในประเด็นนี้  ส่วนหนึ่งก็คงคิดว่าเพื่อความปรองดองตามระบอบประชาธิปไตย  ส่วนหนึ่งเพื่อให้ประเทศเดินทางได้ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ส่วนหนึ่งก็ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้ระบอบประชาธิปไตยของประเทศ   ผู้ไม่เห็นชอบก็คงพูดประเด็นเดิมๆหรือไม่ต่างจากเดิม ยกเว้น มาตรา68เพราะศาลพิพากษาไปแล้วว่าไม่ขัดมาตรา68 ของรัฐธรรมนูญ 2550 ดังนั้นการกล่าวโจมตีฝ่ายตรงข้ามคงไม่สร้างความเสียหายไปถึงสถาบันทางอ้อมอีก และคงได้ประโยชน์ไปไม่มากกว่าการถ่มน้ำลายขึ้นฟ้า. เส้นทางที่ 3 แก้ไขรายมาตรา เส้นทางนี้ไม่ใช่นโยบายของพรรครัฐบาล การแก้ไขทั้งฉบับเป็นนโยบาย เพราะ ต้องการให้เป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาธิปไตยทั้งฉบับ แนวทางนี้ประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ คงไม่สนับสนุนแนวทางนี้ เพราะในภาพรวม ยังเป็นรัฐธรรมนูญที่ติดตราปาบให้ประเทศ  ดังนั้น การแก้ไขทั้งฉบับ จึงเป็นการติดตรารัฐธรรมนูญประชาธิปไตยตามครรลองระบอบประชาธิปไตย จริง.

เส้นทางแสงแห่งเสรีภาพ

หลังเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เมื่อ 24 มิถุนายน 2475 โดยคณะราษฏร์  ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญฉบับแรก (ฉบับชั่วคราว) ประกาศใช้ เมื่อ 27 มิถุนายน 2475 และอีก 17 ฉบับ รวม 18 ฉบับ  รัฐธรรมนูญ 2550 เป็นฉบับที่ใช้อยู่ปัจจุบัน ใช้แทนฉบับปี พ.ศ.2540 ซึ่งเกิดจากระบอบประชาธิปไตย  แต่ก็ถูกฉีกทิ้งโดยอำนาจเผด็จการ  รัฐธรรมนูญ 2550  จึงเปรียบเสมือนการไปปล้นและยึดแผ่นดินเขามา แล้วเข้าไปครอบครอง และเขียนกฏหมายปกครองขึ้นให้เป็นของตนเอง โดยตนเอง และเพื่อตนเอง ที่สำคัญมุ่งหวังสกัดกั้น หรือกำจัดคน/กลุ่มคนและประชาชนคนพื้นเมืองไม่ให้มีอำนาจเกินทัศนคติของตนเอง หมายความว่า จะอย่างไรก็ต้องอยู่ในการควบคุมดูแลในกลุ่มคนของตนเอง ซึ่งถือว่าเป็นการดำเนินการตามแนวทางของคนชั้นนำในประเทศในยุคโบราณ ที่ไม่สนใจสิทธิเสรีภาพความเสมอภาคของคนเป็นสำคัญ  การดำเนินการอย่างนี้ยุคโบราณมีอยู่ทุกประเทศ ยุคปัจจุบัน การเมืองการปกครองของประเทศเกือบทุกประเทศเกิดจากภาคประชาชนขึ้นไป หมายถึง ระบอบประชาธิปไตย และคอมมิวนิสต์ ส่วน การเมืองการปกครองที่เริ่มจากบนลงล่าง คือ สมบูรณาญานสิทธิราชย์ ,และแบบเผด็จการ ปัจจุบันมีไม่กี่ประเทศ  แต่ที่กล่าวมา ก็เป็นรูปแบบการปกครองที่ชัดเจน ไม่กล้ำกลึ่งตีความง่าย รัฐธรรมนูญของแต่ละประเทศก็เขียนตรงไปตรงมาชัดเจน อย่างเช่น ญี่ปุ่น เป็นต้น แยกการเมือง แยกสถาบันชัดเจน.
 ดังนั้น รัฐธรรมนูญ 2550 ถือว่า เป็นรัฐธรรมที่ไม่ใช่รัฐธรรมนูญประชาธิปไตย  ถึงแม้จะมีการประชามติก่อนประกาศใช้ แต่ถือว่าเป็นรัฐธรรมนูญติดตราปืน   และติดตราปาบให้ประเทศ  การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทุกมาตรา โดยนำรัฐธรรมนูญ2550 เข้าไปสู่กระบวนการแก้ไขตามระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง จึงเป็นการเสริมสร้างระบอบประชาธิปไตย อันมีกษัตรยิ์ทรงเป็นประมุข อย่างแท้จริง และเมื่อนั้นรัฐธรรมนูญก็ติดตรารัฐธรรมนูญวางบนพานที่แท้จริง "อย่าหลงธรรมชาติ จนลืมธรรมชาติ หมายความว่า แสงจันทร์ แสงดวงดาว คือแสงจากดวงอาทิตย์  แสงจากดวงอาทิตย์ คือแสงสว่างแห่งสิทธิเสรีภาพความเสมอภาค ที่ให้มนุษย์อย่างเท่าเทียมกันตามใจพึงประสงค์ของผู้รับ  แสงจันทร์ แสงดวงดาว คือ อำนาจ ยศฐาบรรดาศักดิ์ ตลอดจนสิ่งต่างๆที่ได้มาจากความเป็นธรรมชาติของมนุษย์ คือสิทธิเสรีภาพความเสมอภาค ถ้าประชาชนของประเทศใดขาดสิทธิเสรีภาพความเสมอภาค เหมือนขาดแสงอาทิตย์ ชีวิตจะเหมือนดวงจันทร์ และดวงดาวที่ไร้แสง  และถ้าประชาชนในประเทศใดได้รับสิทธิเสรีภาพความเสมอภาคไม่เท่าเทียมกันเหมือนดั่ง ดวงจันทร์ และดวงดาว  ที่ไร้แสง และมีแสง"

ประชาธิปไตยช่วยโลก

การปกครองในระบอบประชาธิปไตย เกิดจากพื้นฐานของศาสนา /บุคคล/กลุ่มบุคคลที่มีความเชื่อไปในแนวทางการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ให้มีสิทธิ เสรีภาพความเสมอภาค ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง  หมายความว่า ประชาธิปไตยทำให้คนช่วยตน และตนก็จะได้ช่วยคนทั้งในประเทศและโลก.กรณีเกิดเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ โดยระบบฟาสซิสต์ในซีเรียมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1982-2012 ไม่นานอวสานฟราสซิสต์ในซีเรียใกล้มาถึง เพราะธรรมชาติของมนุษย์ไม่สามารถที่จะอดทนอดกลั้นต่อสิ่งที่ทำลายสิทธิเสรีภาพความเสมอภาคได้ตลอดกาล โดยเฉพาะกับระบบฟาสซิสต์  
ดังนั้น ประชาธิปไตยในประเทศ ที่ต้องได้รับการสนับสนุนจากประชาธิปไตยโลกสากลเท่านั้น จึงจะช่วยประชาธิปไตยในซีเรีย ให้พ้นจากระบบฟาสซิสต์ได้.
 ในประเทศไทยเข่าข่ายฟาสซิสต์ คือช่วงเดือนตุลาคม 2514-2519,ช่วงเดือนพฤษภาคม 2535และช่วงเดือนกันยายน 2549-2553  การล้มล้างระบบฟาสซิสต์ คือ การสร้างระบอบประชาธิปไตยให้แข็งแกร่ง ดั่ง ดิน หิน เหล็ก เพชร ทอง ตามลำดับ จึงจะเป็นประชาธิปไตยช่วยคนและช่วยโลก ดั่งประชาธิปไตยในประเทศสากล ที่เข้าไปช่วยเหลือเพื่อนมิตรประเทศในโลก ให้พ้นจากฟาสซิสต์มาแล้วนับไม่ถ้วน รวมทั้งในซีเรีย ที่ระบบฟาสซิสต์เวลาลงเหลือไม่มาก ประชาธิปไตยเวลาขึ้นก็ไกล้มาถึง.

ฟาสซิสต์ ไม่ใช่ ประชาธิปไตย

ฟาสซิสต์ ในซีเรีย ได้ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ในชาติตน ตั้งแต่ปี ค.ศ.1982 -2012 และไม่มีท่าทีที่จะหยุดดำเนินการดังกล่าว มิตรประเทศมุสลิม และ UN จะอดทนอดกลั้นต่อเหตุการณ์อย่างนี้อีกนานเท่าไร ประชาชนถูก
สังหารชีวิตมามากพอแล้ว ขอให้ชีวิตเลื่้อดเนื้อ ของเขาที่สละไป ได้ก่อเป็นพลังอันยิ่งใหญ่มากขึ้นในประทศและให้มิตรประเทศอาหรับ ไม่ได้หวาดกลัวอิหร่าน และมิตรประเทศของโลก คือ UN ไม่ให้เกรงใจอิสลาเอล ได้เข้าไปกำจัดผู้นำฟาสซิสต์ในซีเรีย และสร้างสันติภาพในซีเรีย .

ซีเรียฆ่าอีก200ศพ!ช็อกโลก : ข่าวสดออนไลน์

www.khaosod.co.th

ข่าวสดออนไลน์

เจตนาผู้แก้..สร้าง ส่งเสริม สนับสนุน ประชาชน และประชาธิปไตย และเจตนาผู้ค้าน...เพื่อ จับ ลด ปลด ไล่ และยุบประชาธิปไตย

เจตนาผู้แก้..สร้าง ส่งเสริม สนับสนุน ประชาชน และประชาธิปไตย และเจตนาผู้ค้าน...เพื่อ จับ ลด แลด ไล่ และยุบประชาธิปไตย
ผู้แก้ แก้เพื่อประชาธิปไตย แก้เพื้อปรองดอง แก้เพื่อให้มีการแข่งขันทางการเมืองให้เป็นระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์เท่านั้น ดูแล้วผู้แก้ ผู้สนับสนุน ผู้แสดงความคิดเห็นเอง ก็สนับสนุนแก้รัฐธรรมนูญ2550 แต่ไม่มีใครมีเจตนาล้มล้างสถาบันอย่างที่อีกฝ่ายพยายามกล่าวหา แต่การแก้บางที่ก็อาจไปกระทบสถาบันบ้าง เหมือนเราแก้ปัญหาเด็กฝาแฝดหน้าอกติดกัน ที่ทำให้บาดเจ็บบ้างอาจเป็นฝ่ายเดียวหรือ2ฝ่าย ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าส่วนไหนติดมากกว่ากัน แต่การแก้รัฐธรรมนูญ 2550ไม่ใช่การแก้ เหมือนการผ่าตัดแยกเด็กแฝดที่มีหัวใจเดียวกัน แต่เป็นการแก้เด็กแฝด ที่มีหน้าอกติดกัน อวัยวะทุกอย่างเป็นของใครของตนเอง ก็คงบาดเจ็บช่วงหน้าอก มีหมอวิชาชีพ ยาดีมีอย. ญาติพี่น้องคอยดูแลอย่างดีทุกฝ่าย บวกกับธรรมชาติของโลกที่สอดรับ แผลก็หาย ด้วยจิตใจของผู้สร้างโลกอย่างแท้จริง ประเทศอื่นๆในประวัติศาสตร์ มีการแก้ปัญหาทางการเมืองแบบผ่าตัดให้แฝดใดแฝดหนึ่งเสียชีวิตไปเลยเพื่อเอาแฝดหนึ่งไว้ แต่ของไทยเพียงแยกแฝดออกจากกัน เพื่อจะได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระในระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง การเมืองก็จะเป็นการเมืองปลอดสี เป็นการเมืองสีขาวอย่างแท้จริง ทุกพรรคก็จะใช้นโยบาย สร้างผลงานเพื่อสร้างบารมีอย่างแท้จริง ไม่ได้นำสถาบันมาสร้างบารมีทางการเมือง หรือทางสังคม และทางอาชีพ หรือแม้กระทั่งกับการสร้างความรักชาติ เพราะความรักชาติ มันต้องเกิดจากความตระหนักในตัวบุคคลที่มีต่อเชื้อชาติ สัญชาติ แผ่นดิน แผ่นน้ำ ความเป็นมุษย์ในประเทศและโลกนี้ โดยปราศจากสิ่งที่ที่ต้องทำให้เกิดความรักชาติ จึงจะเป็นความรักปราศจากการคลุมถุงชน รัฐธรรมนูญจะแยกคนการการเมืองออกจากสถาบัน สถาบันก็จะเป็นสถาบันประมุขของประเทศ ประชาชนทุกคนก็เป็นประชาชนรักชาติ รักสถาบัน รักเพื่อนมนุษย์โดยตระหนักอย่างแรงกล้าถึงสิทธิเสรีภาพความเสมอภาพอย่างแท้จริง ดังบุคคลประวัติศาสตร์ของบุคคลสำคัญของโลกที่พยายามสร้างสิ่งแนวทาง นี้ ที่ต้องยอมเสี่ยงทุกอย่าง แม้กระทั่งชีวิต อุดมการณ์จึงเกิดผล ดังเช่นทุกวันนี้ เช่น พระพุทธเจ้า,พระเยซูคริสต์ ,ท่านมหาตมะคานธี,ประธานาธบดีอับราฮัม ลินคอล์น,คณะราษฎร,อองซานซูจี เป็นต้น ทุกพระองค์ ทุกท่านล้วนสร้างพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตย อย่างอินเดีย,เนปาล เพื่อนบ้านเอเชียหรือประเทศในยุโรปหลายประเทศ เปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศโดยผ่าตัดครั้งใหญ่ โดยเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งไว้ แต่รัฐบาลชุดปัจจุบันและผู้สนับสนุน แก้แบบแยกฝาแฝด เอาหน้าอกออกจากกัน เพื่อให้ต่างฝ่ายต่างใช้ชีวิตที่อิสระจากกันแต่ต่างคนต่างยังมีชีวีติและใช้ชีวิตในสถาบันของตนเองและเป็นสถาบันที่เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง และเป็นการแก้เพื่อสร้างประเทศและโลกทางบวก ผู้เขียนรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 เจตนาเขียนไว้ เพื่อป้องกันการแก้ และถ้ามีการแก้ก็ใช้เป็นประโยชน์ทางการเมือง โดยกล่าวหาว่าล้มล้างสถาบัน สุดท้ายก็โยงเข้าสู่การหาประโยชน์ทางการเมือง คือ จับ ลด ปลด ไล่ และยุบ คู่แข่งทางการเมือง.
วันศุกร์ที่ 13 ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาของโลกอีกศาสนาหนึ่ง ที่พระเยซูคริสต์สละชีวิตเพื่อมนุษย์โลก ให้อยู่กันอย่างมีสิทธิเสรีภาพความเสมอภาค ดังนั้น 13 ก.ค.55 จึงเป็นวันประชาธิปไตย เพราะประเทศที่นับถือศาสนาคริสต์ทุกประเทศก็ว่าได้ เป็นประเทศที่ปกครองแบบประชาธิปไตยที่แท้จริง.

เจตนาผู้แก้..สร้าง ส่งเสริม สนับสนุน ประชาชน และประชาธิปไตย และเจตนาผู้ค้าน...เพื่อ จับ ลด ปลด ไล่ และยุบประชาธิปไตย

ผู้แก้ แก้เพื่อประชาธิปไตย แก้เพื้อปรองดอง แก้เพื่อให้มีการแข่งขันทางการเมืองให้เป็นระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์เท่านั้น  ดูแล้วผู้แก้ ผู้สนับสนุน ผู้แสดงความคิดเห็นเอง ก็สนับสนุนแก้รัฐธรรมนูญ2550  แต่ไม่มีใครมีเจตนาล้มล้างสถาบันอย่างที่อีกฝ่ายพยายามกล่าวหา  แต่การแก้บางที่ก็อาจไปกระทบสถาบันบ้าง เหมือนเราแก้ปัญหาเด็กฝาแฝดหน้าอกติดกัน ที่ทำให้บาดเจ็บบ้างอาจเป็นฝ่ายเดียวหรือ2ฝ่าย ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าส่วนไหนติดมากกว่ากัน แต่การแก้รัฐธรรมนูญ 2550ไม่ใช่การแก้ เหมือนการผ่าตัดแยกเด็กแฝดที่มีหัวใจเดียวกัน แต่เป็นการแก้เด็กแฝด ที่มีหน้าอกติดกัน อวัยวะทุกอย่างเป็นของใครของตนเอง ก็คงบาดเจ็บช่วงหน้าอก มีหมอวิชาชีพ ยาดีมีอย. ญาติพี่น้องคอยดูแลอย่างดีทุกฝ่าย  บวกกับธรรมชาติของโลกที่สอดรับ แผลก็หาย ด้วยจิตใจของผู้สร้างโลกอย่างแท้จริง   ประเทศอื่นๆในประวัติศาสตร์ มีการแก้ปัญหาทางการเมืองแบบผ่าตัดให้แฝดใดแฝดหนึ่งเสียชีวิตไปเลยเพื่อเอาแฝดหนึ่งไว้ แต่ของไทยเพียงแยกแฝดออกจากกัน  เพื่อจะได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระในระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง การเมืองก็จะเป็นการเมืองปลอดสี เป็นการเมืองสีขาวอย่างแท้จริง ทุกพรรคก็จะใช้นโยบาย สร้างผลงานเพื่อสร้างบารมีอย่างแท้จริง ไม่ได้นำสถาบันมาสร้างบารมีทางการเมือง หรือทางสังคม และทางอาชีพ หรือแม้กระทั่งกับการสร้างความรักชาติ เพราะความรักชาติ มันต้องเกิดจากความตระหนักในตัวบุคคลที่มีต่อเชื้อชาติ สัญชาติ แผ่นดิน แผ่นน้ำ ความเป็นมุษย์ในประเทศและโลกนี้ โดยปราศจากสิ่งที่ที่ต้องทำให้เกิดความรักชาติ จึงจะเป็นความรักปราศจากการคลุมถุงชน รัฐธรรมนูญจะแยกคนการการเมืองออกจากสถาบัน สถาบันก็จะเป็นสถาบันประมุขของประเทศ ประชาชนทุกคนก็เป็นประชาชนรักชาติ รักสถาบัน รักเพื่อนมนุษย์โดยตระหนักอย่างแรงกล้าถึงสิทธิเสรีภาพความเสมอภาพอย่างแท้จริง  ดังบุคคลประวัติศาสตร์ของบุคคลสำคัญของโลกที่พยายามสร้างสิ่งแนวทางนี้  ที่ต้องยอมเสี่ยงทุกอย่าง แม้กระทั่งชีวิต อุดมการณ์จึงเกิดผล ดังเช่นทุกวันนี้ เช่น พระพุทธเจ้า,พระเยซูคริสต์ ,ท่านมหาตมะคานธี,ประธานาธบดีอับราฮัม ลินคอล์น,คณะราษฎร,อองซานซูจี เป็นต้น ทุกพระองค์ ทุกท่านล้วนสร้างพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตย อย่างอินเดีย,เนปาล เพื่อนบ้านเอเชียหรือประเทศในยุโรปหลายประเทศ เปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศโดยผ่าตัดครั้งใหญ่ โดยเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งไว้ แต่รัฐบาลชุดปัจจุบันและผู้สนับสนุน แก้แบบแยกฝาแฝด เอาหน้าอกออกจากกัน เพื่อให้ต่างฝ่ายต่างใช้ชีวิตที่อิสระจากกันแต่ต่างคนต่างยังมีชีวีติและใช้ชีวิตในสถาบันของตนเองและเป็นสถาบันที่เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง และเป็นการแก้เพื่อสร้างประเทศและโลกทางบวก  ผู้เขียนรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 เจตนาเขียนไว้ เพื่อป้องกันการแก้ และถ้ามีการแก้ก็ใช้เป็นประโยชน์ทางการเมือง โดยกล่าวหาว่าล้มล้างสถาบัน สุดท้ายก็โยงเข้าสู่การหาประโยชน์ทางการเมือง คือ จับ ลด ปลด ไล่ และยุบ คู่แข่งทางการเมือง.
วันศุกร์ที่ 13 ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาของโลกอีกศาสนาหนึ่ง ที่พระเยซูคริสต์สละชีวิตเพื่อมนุษย์โลก ให้อยู่กันอย่างมีสิทธิเสรีภาพความเสมอภาค  ดังนั้น 13 ก.ค.55 จึงเป็นวันประชาธิปไตย  เพราะประเทศที่นับถือศาสนาคริสต์ทุกประเทศก็ว่าได้ เป็นประเทศที่ปกครองแบบประชาธิปไตยที่แท้จริง.

วันสำคัญของประชาธิปไตย

10 ธันวาคม วันชาติไทย ,14 ตุลาคม วันประชาธิปไตย และ 6 ตุลาคม วันเยาวชนแห่งชาติ.
ศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม 2555 วันที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญผิดมาตรา68 รัฐธรรมนูญ 2550 หรือไม่ การเมืองการปกครองเป็นเรื่องของประชาชนใน ประเทศ ที่ต้องตัดสินกันเองตามกระบวนการของรัฐธรรมนูญ ถ้ามีการนำเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญขึ้นศาลฯ ก็เท่ากับการนำผู้ถูกกล่าวหาไปหาเจ้าของทรัพย์ พิจารณาเอง ตัดสินเอง คงไม่สมควร เพราะเป็นปัญหาเกี่ยวกับการร้องว่า ขัดมาตรา68 ของรัฐธรรมนูญ ต้องให้ศาลการเมืองตัดสิน คือรัฐสภาและประชาชน ศาลและสถาบันจะไม่ได้ถูกมองในภาพลบ ซึ่งมันจะเป็นไปตามเกมส์ของปชป. ทุกวันนี้ปชป.ตั้งเป้าหมายไว้ คือ ขัดขวางการดำเนินการของรัฐบาลทุกอย่างและยุบพรรคเพื่อไทย และหาช่องทางกลับมาเป็นรัฐบาล โดยที่ไม่ต้องชนะการเลือกตั้ง อย่างที่ทำสำเร็จมาแล้วเมื่อครั้งเป็นรัฐบาล ครั้งนี้ถ้าเกิดขึ้นอีก ต้องคว่ำบาตรทางการเมืองพรรคปชป.
ศุกร์13 พระเยซูคริสต์สละชีพ เพื่อมนุษย์โลก ดังนั้น ศุกร์ที่ 13 ก.ค.55 จึงเป็นวันเริ่มต้นอย่างเป็นทางการของการส่งเสริมสนับสนุนระบอบประชาธิปไตย ให้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพความเสมอภาค ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคมและการเมืองเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง.

ดวงอาทิตย์สีแดง - ดาวแดง

กลยุทธ์ของการเมืองฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล ปัจจุบัน ได้มีกลุ่มบุคคลหนึ่งเข้าไปเกลี้ยกล่อม ผรท. ส่วนหนึ่งให้ออกมาช่วยต่อต้านการแก้ไข รัฐธรรมนูญของรัฐบาล หมายความว่า เริ่มใช้กลยุทธ์หันหน้าเข้าป่า แต่ช่วงแรกเข้าป่าสงวน ซักระยะเมื่อไม่สำเร็จ คงหันหน้าหนีเข้าป่าธรรมชาติ ก็เป็นไปได้เช่นกัน เพราะทุกวันทุกคนยิ่งรู้ทันมากขึ้น ในภาคประชาชนฝ่ายค้านเริ่มเสื่อมถอยมากขึ้นเพราะลูกไม้เดิมๆของฝ่ายค้าน หมดพลัง เพราะมีการใช้ฟุ้มเฟื่อย สุรุ่ยสุร่ายไม่มีความพอเพียง ของไม่เสื่อม แต่คนใช้ของเสื่อม ของจึงไม่ศักดิ์สิทธิ์ จะเห็นแล้วว่ามีข่าว หันหน้าไปเกลี้ยงกล่อม ผรท. ส่วนหนึ่งแล้ว ซึ่งเป็นตัวชี้ให้เห็นได้ว่า คำที่เคยกล่าวอ้างปราบคู่แข่งทางการ เมืองอย่างอยู่หมัด คือล้มล้างสถาบัน เริ่มใช้ไม่ได้ผล เพราะคนใช้เสื่อม จึงใช้ไม่ได้ผล แต่รัฐบาล ไม่ได้ไใช้ ไม่ได้กล่าวถึงสถาบัน แต่ทำให้ประชาชนซึ่งเป็นหัวใจของสถาบัน มากกว่าพูดคำว่า รัก และปกป้องสถาบัน เพราะสิ่งเหล่านั้น มันเป็นเพียงวาทศิลป์ที่กินใจคนอื่น ได้แบบไฟไหม้ฟาง แต่ไม่สามารถกินใจได้ตลอดกาล ดังผลงานของรัฐบาลไทยรักไทย พลังประชาชน ถึง เพื่อไทย ผลการเลือกตั้ง จึงชนะคู่แข่งตลอดกาล อาจถึงคราวอาวสานปชป. หรือภท.ก็เป็นได้ และต้องไปเกิดใหม่ แบบอะไรก็ยอมเธอ และสุภาพบุรุษปชป.ควรพูดว่า"วันนี้ชาตินี้ให้เธอ วันหน้าชาตินี้พบกันแบบประชาธิปไตยที่แท้จริง ก็ได้" ถ้าอย่างนี้ คนทั่วประเทศส่วนมากต้องเปลี่ยนจากถือตีนตบเป็นถือมือตบให้สุภาพบุรุษปชป.และภท

ดวงอาทิตย์สีแดง - ดาวแดง

การกระทำของพวกที่ออกไปเกลี้ยกล่อม ผทร.ให้ออกไปต่อต้านรัฐบาล เป็นการกระทำเพียงเพื่อหวังชนะพรรครัฐบาลทางสถานเดียว ไม่ได้หวังชนะใจประชาชน โดยการสร้างผลงานให้ประชาชนและประเทศชาติ นักการเมือง ต้องสร้างการเมืองให้เป็นของประชา ชน โดยประชาชนและเพื่อประชาชน ให้มีสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคมการเมืองอย่างทั่วถึง ดังนั้น ดาวแดงทุกท่านจึงควรต้องส่งเสริมสนับสนุนการสร้างการเมือง มากว่าการส่งเสริมสนับสนุนเพื่อทำลายการเมือง เพราะมันหมายถึงการทำลายประชาชนทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยเฉพาะประชาชนคนธรรมดา อย่างพวกเราท่าน ที่สำคัญรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งของประชาชน ที่ชนะการเลือกตั้ง และเป็นรัฐบาลที่ถูกต้องตรงๆตามรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ จึงสมควรต้องส่งเสริมสนับสนุนการสร้างการเมืองมากกว่าไปส่งเสริมสนับสนุนการทำลายการเมือง .

อนุสรณ์สถานประวัติศาสตร์ชาติประชาํืธิไตย

10 ธันวาคม วันชาติไทย ,14 ตุลาคม  วันประชาธิปไตย และ 6 ตุลาคม วันเยาวชนแห่งชาติ.
ศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม 2555 วันที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญผิดมาตรา68 รัฐธรรมนูญ 2550 หรือไม่   การเมืองการปกครองเป็นเรื่องของประชาชนในประเทศ ที่ต้องตัดสินกันเองตามกระบวนการของรัฐธรรมนูญ  ถ้ามีการนำเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญขึ้นศาลฯ ก็เท่ากับการนำผู้ถูกกล่าวหาไปหาเจ้าของทรัพย์ พิจารณาเอง ตัดสินเอง คงไม่สมควร เพราะเป็นปัญหาเกี่ยวกับการร้องว่า ขัดมาตรา68 ของรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าเป็นที่พึงพิงของประชาชนทุกคนจริง  ปัญหาคงไม่เบ่งบาน.
รัฐธรรมนูญ 2550 เกิดจากการรัฐประหาร มีการจัดตั้งรัฐบาลบริหารประเทศ ผิดหลักการของรัฐธรรมนูญของประเทศไทย อย่างชัดเจน .
ปัจจุบัน จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ตามมาตรา 291 กลับมีผู้ร้องศาลรัฐธรรมนูญ ว่าขัด มาตรา68 ทั้งที่ความเป็นจริงยังไม่เห็นเนื้อหาของรัฐธรรมนูญที่ชัดเจน ปากคนรู้ก็รู้ว่าขยับได้360องศา อ้าให้ถูกอ้าให้ผิดได้ จึงใช้เป็นหลักฐานไม่ได้ เพราะต่างคนก็ต้องพูดเข้าข้างตนเอง จึงต้องใช้รัฐธรรมนูญฉบับที่เขียนขึ้นจริงมาดูและทำประชามติทั่วประเทศ ก่อนประกาศใช้  ซึ่งประชาชนทุกคนที่มีสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญกำหนด ก็จะได้ใช้สิทธิ์ของตนเอง ซึ่งถือว่าเป็นกระบวนการที่ชอบธรรมตามระบอบประชาธิปไตยสากล   ถ้าการตัดสินออกมาล้มเลิกกลางคันอย่างนี้ ถือว่า ประเพณีวัฒนธรรมของโหรยังมีผลทั้งทางตรงและทางอ้อมในการเมืองการปกครองของไทย คือการใช้ชอลก์บนกระดานดำแผ่นเล็ก แล้วตัดสินการกระทำของคนเหมือนดั่งโบราณ ที่คนบริสุทธิ์ ต้องตายและถูกทรมาร เพราะความใจแคบ โดยใช้ชอลก์เขียนบนกระดานดำแผ่นเล็ก  สิ่งเหล่านี้เป็นอธรรมมากว่าธรรมะ สมัยใหม่ถือว่าเป็นจิตวิทยาในการทำให้คนคล้อยตามและทำสิ่งที่ตนเองมุ่งหวังอย่างไร้มนุษยธรรมเช่น การสังหารนักศึกษา ประชาชน 14ต.ค.16และ6ต.ค.19 เป็นต้น  หรือการทำรัฐประหารปี 2549 ก็ใช้โหรเป็นแรงปลุึกใจ.

สุข(ศุกร์) 13 ก.ค.55.

ถ้าคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินการแก้ไขรัฐธรรมนูญขัดมาตรา 68ของรัฐธรรมนูญ หมายความว่า ตัดสินโดยยึดระบอบศักดินาเป็นสำคัญ   และเป็นเครื่องยืนยันอีกครั้งว่าองค์กรหลักของประเทศ ไม่สามารถเป็นที่พึงพิงของประชาชนได้อย่างแท้จริง  อีกต่อไป   ถ้าตัดสินแบบผู้ใหญ่ใจกว้างดั่งมหาสมุทรว่าไม่ขัดแต่ให้เป็นไปตามกระบวนการของรัฐสภาตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด และขั้นสุดท้ายให้ทำประชามติรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ อย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยมีหน่วยงานที่ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา และสามารถละกิเลสทัศนคติของตนเองเอาไว้ได้จริงๆ ขณะทำหน้าที่ในการให้มีการแสดงประชามติโดยการลงคะแนนทางลับทั่วประเทศ.

  ในประเทศทั่วโลกจากอดีต-ปัจจุบัน การเมืองการปกครองเ้กิดจาก 1.บุคคล/กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจทางทหาร และสร้างบารมี โดยใช้ความเชื่อในเรืองสมมุติเทพ (ระบบกษัตริย์),2.บุคคล/กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจกำลังทางทหาร (เผด็จการ) 3. บุคคล/กลุ่มบุคคลประชาชนทั่วไป ที่มีความเห็นต่างจาก สองกลุ่มแรกอย่างสิ้นเชิง (คอมมิวนิสต์),และ 4. บุคคล/กลุ่มบุคคลที่เห็นต่างจากทั้ง สามกลุ่ม โดยมีความเชื่อในเรื่องสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคของความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกัน ไม่มีอะไรที่แตกต่างจากความเป็นมนุษย์ในความเป็นจริง เป็นความเชื่อที่ให้การเมืองการปกครองเป็นของประชาชน โดยประชาชนและเพื่อประชาชน จึงเกิดเป็น 1.ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงแบบสุดขั้วอุดมการณ์/ประชาธิปไตยหนึ่งนำ  คือ แบบประธานาธิบดี เช่น สหรัฐอเมริกา ฯลฯ 2.ประชาธิปไตยแบบสาธารณรัฐ เป็นประชาธิปไตยแบบสอง นำ เช่นฝรั่งเศล ,เยอรมัน ฯลฯ3.ประชาธิปไตยแบบราชาประชาธิปไตย เช่น อังกฤษ,ญี่ปุ่น,นอรเวย์ฯลฯ ซึ่งในรัฐธรรมนูญของทุกประเทศกำหนดให้กษัตริย์เป็นเพียงประมุขของประเทศ ไม่มีอำนาจทางการเมืองการปกครองโดยตรง จะดำเนินการใดๆต้องผ่านรัฐสภาหรืิอภาครัฐ .

จะเห็นว่าในอดีต ถึงปัจจุบันทุกประเทศ การเมืองการปกครองไม่ใช่กฏหมาย ไม่ใช่ระเบียบข้อบังคับ แต่เป็นเรื่องของบุคคล/กลุ่มบุคคล ที่จะสร้าง แก้ไขปรับปรุงพัฒนาการเมืองการปกครองตามสถานการณ์และโอกาส/ตามทัศนคติของตนเอง/กลุ่ม ในอดีต คือใช้กำลังทหาร กำลังความเชื่อแบบสมมุติเทพ กำลังประชาชนแบบคอมมิวนิสต์และในปัจจุบันที่สากลประเทศยอมรับ คือ พลังประชาชนในระบอบประชาธิปไตย โดยใช้กระบวนการของรัฐสภา ที่ประชาชนทุกคนมีส่วนร่วมโดยใช้ประชามติ .

การแก้ไขรัฐธรรมนูญของประเทศไทย จุดประสงค์เพื่อแก้ไข ปรับปรุงพัฒนาการเมืองการปกครองให้เป็นระบอบประชาธิปไตย อันมีกษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างแท้จริง และเป็นไปตามขั้นตอนที่สากลประเทศยอมรับ ดังนั้น เมื่อมีการหยิบยก ขัด มาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 ก็เป็นเรื่องที่ศาลตุลาการรัฐธรรมนูญจะพิจารณาตามที่มีผู้ร้อง แต่ถ้ามีการตัดสินถึงขั้นให้มีการล้มเลิกการการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยทั้งที่ยังไม่เห็นเนื้อหาที่แท้จริงๆของรัฐธรรมนูญแล้ว ก็หมายความว่า ความระแวงหวาดหวั่นต่อประชาธิปไตยของกลุ่มอนุรักษ์นิยม จะเป็นตัวปั่นทอนความน่าเชื่อถือของกลุ่มอนุรักษ์นิยมโดยตนเองสร้างเองจนถึงจุดต่ำสุดเช่น การล่ารายชื่อถอดถอนศาลรัฐธรรมนูญ การแสดงสปิริตลาออกของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และพฤติกรรมของส.ส.ปชป.ในสภา  จะเห็นว่าผลการเลือกตั้งทั่วไป ระดับระเทศ ปชป.นับวันคะแนนนิยมลดลงเรื่อยๆ "ยิ่งดิ้นยิ่งลด" .

ดังนั้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงไม่ควรนำมาตรา 68 เข้ามายุ่งเกี่ยวเพื่อล้มเลิกการแก้ไขรับธรรมนูญ เพราะ มันจะนำไปโยงให้เกี่ยวข้องตามกลยุทธ์ของ พธม.และปชป.ที่วางไว้ เพื่อทำลายรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยเฉพาะการสกัดกั้น อดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นยุทธศาสตร์สำคัญ ของปชป.และพธม.การที่ดึงศาลเข้ามายุ่งเกี่ยวก็เท่ากับดึง สถาบันประมุขของประเทศเข้ามาเกี่ยวข้องทางการเมือง จึงเป็นการไม่สมควร เพราะทำให้ภาพลักษณ์ของศาลและประมุขของประเทศลดความน่าเชื่อลงทั้งในและต่างประเทศ ได้  การแก้ไขรัฐธรรมนูญจึงให้เป็นไปตามกระบวนการของรัฐธรรมนูญ จนถึง ขั้นการลงประชามติรับหรือไม่รับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยให้เป็นของประชาชน โดยประชาชนและเพื่อประชาชน ซึ่งมีเนื้อหาให้ประชาชนทุกคนอ่านโดยใช้วิจารณญาณ ไตร่ตรองโดยตนเองได้ ว่าขัด มาตรา 68 หรือไม่   ซึ่งถือว่าเป็นการเปิดโอกาสสร้างพลเมืองของประเทศเป็นพลเมืองโลกที่มาตรฐานสากลให้รู้จักกล้าคิด กล้าเขียน กล้าพูด กล้านำ กล้าตัดสินใจ และกล้าทำสิ่งใหม่ อย่างประเทศที่พัฒนาแล้ว พื้นฐานการพัฒนาประเทศมาจากการพัฒนาคน ให้มีสิ่งเหล่านี้  เพราะเป็นพื้นฐานการพัฒนาประเทศที่แท้จริง   .

หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ 2475 ความหวาดระแวงต่อการล้มล้างสถาบันได้แทรกแซงในทางการเมือง จนเป็นเกมทำลายคนและรัฐบาลหลายรัฐบาลมาแล้วอย่างซ้ำซาก  ปัจจุบันได้ลุกลามไปใช้อำนาจทางศาลที่เกี่ยวข้อง และถ้าไม้ได้รับการแก้ไข อนาคตอาจดึงองคมนตรีเข้ามาเกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาทางการเมือง ซึ่งก็หมายถึงใกล้จุดที่ พธม.และ ปชป.วางไว้ที่ต้องการให้สถาบันประมุขของประเทศมีพระราชอำนาจในทางการเมืองการปกครองทั้งทางตรงหรือทางอ้อมอย่างแท้จริงที่ตนเองมุ่งหวัง  ซึ่งถ้าประชาธิปไตยอ่อนแอ ประเทศไทยก็เป็นประเทศประชาธิปไตยแบบราชาธิปไตยไทยอย่างแท้จริง หมายถึง ปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ธิปไตย นั่นเอง สิ่งที่ตามมาคือ ระบบเจ้าขุน มูลนาย เอารัดเอาเปรียบกันโดยใช้ยศฐาบรรดาศักดิ์ การไขว่คว้าหายศฐาบรรดาศักดิ์แบบสุดขั้ว การแบ่งชั้นวรรณะก็ตามมาอย่างไม่รู้ตัว การตรวจสอบความโปร่งใสของบุคคล กลุ่มบุคคล องค์กรภาครัฐเข้าไม่ถึงเพราะเหล่านั้นอวดอ้างยศฐาบรรดาศักดิ์ ที่สำคัญอย่างร้ายกาจ  ใช้ศักดินาตนเองหรือของคนอื่นขึ้นมาปกป้องตนเองและทำลายคนอื่นเพื่อสร้างความร่ำรวยและความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงานให้ตนเอง โดยผิดกับหลักของความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ในความหมายของสากลประเทศ  คือผู้มีสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค และโอกาสที่มนุษย์ทุกคนสามารถเข้าไปถึงได้ ทั้งด้านการศึกษา เศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ทั้งนี้ โดยใช้การเมืองการปกครองแบบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ เพื่อให้คนเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ และอยู่ในโครงสร้างของประเทศที่สมบูรณ์  ประเทศที่สมบูรณ์ คือประเทศที่ไม่มีกฏหมายปราบปรามประชาธิปไตย หรือกฏหมายปราบปรามประชาชนที่ออกมาเรียกร้องสิทธิ เสรีภาพทางการศึกษา เศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ที่ทำไปเพื่อตนเอง กลุ่มตนเอง คนของตนเองในฐานะประชาชนคนธรรมดา ที่ปราศจากการเรียกร้องเอาศักดินาอยู่เหนือประชาธิปไตย.

ความหวังของ ปชป. แผน 1ทางตรงคือการกระทำให้ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร มีโทษและได้รับโทษ ในทางอ้อมลดความน่าเชื่อถือ พรรคเพื่อไทย/ยุบไปเลย และแตกสลายไป  ถ้าสำเร็จ แผน 2 ก็จะใช้เป็นกลยุทธ์ในการโจมตีทำลายทั้งตัวบุคคล/กลุ่มบุคคล/พรรคเพื่อไทยทางการเมืองต่อไป แผน 3  ปชป.ร่วมกับ ภท.เป็นแกนหลักจัดตั้งรัฐบาล  จะเห็นว่าในปัจจุบันแผนปชป.ยิ่งดิ้นยิ่งลดตนเองตกต่ำ แต้ใช้ประสบการณ์ในอดีต โดยดึงสถาบันประมุขของประเทศทั้งทางตรงและทางอ้อมมาพยุงตัวเองเอาไว้ ถ้าประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ลูกศรต้องย้อนกลับเข้าหาปชป.เองแน่นอน และอาจเป็นพรรคต่ำสิบก็เป็นได้ .

ความหวัง พธม. ซึ่ง ผู้นำอย่างนายสนธิ เคยประกาศชัดเจน ไม่ยอมรับการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย ต้องการรัฐบาลที่มาจากพระราชอำนาจประมุขของประเทศ ซึ่งก็หมายถึงการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ประชาธิปไตย การออกมาต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญของ 2กลุ่มหลักนี้ จึงเป็นกล้าคิด กล้าพูดและกล้าตัดสินใจทำในสิ่งที่ผิดหลักของการกระทำที่เป็นมาตรฐานของสากลประเทศอย่างชัดเจน ซึ่งก็หมายความว่า ในสนามทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม สู้ไม่ได้ จึงต้องใช้สถาบันทั้งทั้งตรงและทางอ้อม ซึงอาจเป็นการทำลายทางอ้อมได้  การรณรงค์รู้รักสามัคคี รักสถาบัน แต่ไม่เคารพประชาธิปไตย จึงเป็นการรณรงค์ที่สูญเปล่า  แม้กระทั่งปัญหาภาคใต้เองก็ไม่มีวันจบสิ้นอย่างแท้จริง เพราะภาพรวมประเทศขาดความตระหนักและเห็นคุณค่าของประชาธิปไตย