ประชามติ(Referendum) จากมติประชาทั้งประเทศ

ประชามติ(Referendum) จากมติประชาทั้งประเทศ
โดย...สีเลือดเดียว อันคงไว้ซึ่งชาติ ศาสนาทุกศาสนาและพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ประเด็น ที่จะให้รัฐบาลรักษาการและ กปปส..ปชป.กปท.และคปท.เจรจากันเพื่อ นำประเทศเข้าสู่ระบบอย่างสันติ ผมมองว่าการเจรจาเกิดไม่ได้ถ้ากปปส.ปชป.กปท.และคปท.ต้องการกำจัดตระกูลชินวัตร พรรคเพื่อไทยและนปช.โดยการจำกัดและกำจัดหลักประชาธิปไตย 1 คน 1 เสียง เช่นเดียวกันกลุ่มผู้ชุมนุมก็ไม่ยอมเจรจา เพราะไม่ต้องการในสิ่งที่รัฐบาลต้องการ แต่สิ่งที่จะเป็นไปได้อย่างชอบธรรมตามหลักธรรมาภิบาลของการเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข คือ มาตรา 70, 71 ,72 แต่หลักการตามกฎหมายรัฐธรรมนูญอย่างตรงไปตรงมานี้ กปปส.ปชป.กปท.และคปท.ไม่ต้องการ ถ้าเป็นเช่นนี้ คงหลีกเลี่ยงความรุนแรงได้ยาก ถ้ามีการบังคับให้รัฐบาลรักษาลาออกและดำเนินการตามวีถีทางเผด็จการอภสิทธิชน แต่ การหยุดยั้งความรุนแรงที่จะเกิดในประเทศชาติ สามารถทำได้ แต่ไม่ใช่ไปเอาใจ ปชป.กปปส.กปท.และคปท หรือ ใช้กองกำลังเจ้าหน้าที่สลายการชุมนุมอย่างรุนแรง แต่ต้องใช้ครรลองประชาธิปไตย มาตรฐานสากล นั้น คือการทำประชามติจากคนทั้งประเทศ ว่าจะเดินหน้าปฏิรูปการเมืองสู่การเป็นระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พร้อมกับการเลือกตั้ง หรือ จะเดินหน้าล้มการเลือกตั้ง เพื่อนำไปสู่การเป็นรัฏฐาธิปัตย์ของอภิสิทธิชน อย่างสมบูรณ์ ตามที่ กปปส.ปชป.กปท.และคปท.ต้องการ แต่ประชามติ ต้องเป็นมติของประชาทั้งประเทศ ตามครรลองประชาธิปไตย ถ้าผู้มีอำนาจ มีบารมีที่เป็นกลางคิดว่าเดินหน้าเลือกตั้งก็คงไม่ได้รัฐบาลบริหารจัดการประเทศ และ ถ้าคิดว่าทำตามใจของปชป.กปปส.กปท.และคปท.จะทำให้ ยิ่งพบทางปิดอย่างอัตโนมัติ ดังนั้น การทำประชามติ จากมติประชาทั้งประเทศ คือ ทางออกเพื่อนำประเทศทั้งเศรษฐกิจ สังคมและการเมืองระบอบประชาธิปไตย เข้าสู่ระบบมาตราสากล แต่ต้องคงไว้ซึ่งความเป็นชาติ ศาสนาทุกศาสนาและพระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นประมุขของประเทศชาติ