ประชาธิปไตย แบบหาเช้ากินค่ำ/หักแข้งแทงหยวก ≠ หลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี

กลยุทธ์ใช้เวทีนอกสภาของฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล เสธ.อ้าย ได้ประกาศยุติอย่างเป็นทางการไปแล้ว  เพราะทั้งภาคประชาชน องค์กรเอกชน ส่วนใหญ่ และองค์กรของรัฐ ทั้งในประเทศและต่างประเทศไม่เห็นด้วย  .      ส่วนกลยุทธ์ ที่ 2 ใช้เวทีของรัฐสภาตามระบอบประชาธิปไตยที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ แต่ สมาชิกรัฐสภา จะดำเนินการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญอย่างแท้จริงได้หรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่าสมาชิกรัฐสภา จะมีความสำนึกถึงการไม่สร้างความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต่อประเทศชาติมากกว่าการมีอคติต่อฝ่ายตรงข้าม หรือไม่ ที่ผ่านมา  สมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้าน ได้นำกลยุทธ์นอกรัฐสภาที่เห็นกันได้ทั่วไปของความเป็นมนุษย์ธรรมดาๆไปใช้ในรัฐสภา  อย่างนั้น เป็นการแสดงถึงการไม่เคารพต่อรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ  พฤติกรรมอย่างนั้นไม่สามารถแสดงให้คนของโลกส่วนใหญ่ มีอารมณ์ร่วมไปกับพฤติกรรมที่สวนกระแสโลก ที่ต้องการสร้างประชาธิปไตย ด้วยระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เพื่อแก้ไขปัญหา และพัฒนาประเทศและโลกทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และโดยเฉพาะทางการเมือง ที่ผ่านมาการอภิปรายไม่ไว้วางใจมีแต่ข้อมูลแบบหาเช้ากินค่ำและหักแข็งแทงหยวก .

 การอภิปรายไม่ไว้วางใจว่ามีการทุจริตคอร์รัปชั่น นั้น มีแต่โบราณมาแล้ว ไม่ใช่ความผิดของรัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่ง มันเป็นความรับผิดชอบของทุกคนในประเทศและโลกนี้ทั้งระบบ ที่ต้องแก้ไขทั้งระบบ ด้วยระบอบประชาธิปไตยและหลักธรรมาภิบาล  ส่วนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญและ พ.ร.บ.ความปรอดองแห่งชาติ นั้น เป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพตามระบอบประชาธิปไตย โดยเฉพาะรัฐบาลปัจจุบัน ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ตามรัฐธรรมนูญของประเทศไทย จึงเป็นสิทธิอันชอบธรรม ที่รัฐบาลสามารถดำเนินการได้ ตามกระบวนการของระบอบประชาธิปไตย  และเป็นสิทธิอันชอบธรรมที่เหนือกว่าสิทธิแบบอธรรมของฝ่ายค้าน   ดูจากผลการเลือกตั้ง หลายครั้งที่ผ่านมา  และในต่างประเทศ จะเห็นจากความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เป็นไปในทางพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมและการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ทั้งระบบ สำหรับข้อมูลที่มีการกล่าวอ้างว่ารัฐบาลปัจจุบันปล่อยให้มีการจาบจ้วงสถาบันนั้น  เป็นความไม่ยุติธรรมต่อผู้ถูกอภิปราย เพราะข้อมูลดังกล่าว สามารถเกิดขึ้นได้กับประชาชนทุกคนในประเทศของโลกนี้   ในประเทศไทย ข้อมูลของการแสดงความคิดเห็นต่อสถาบัน นั้น  มีมาก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากสมบูรณาญาสิทธิราชย์ สูระบอบประชาธิปไตย ตามรัฐธรรมนูญ จวบจนปัจจุบัน และการที่บอกว่าเป็นความผิดของใครคนใดคนหนึ่งเป็นการเฉพาะตัว หรือ เป็นความผิดของพรรคใดพรรคหนึ่งที่ไม่บังคับใช้กฎหมายกับประชาชน นั้น   เป็นความคิดแบบหาเช้ากินค่ำ /แบบหักแข็งแทงหยวก นั่นเอง. 

ดังนั้น  วิธีการที่ชอบธรรมกับการแก้ไขปัญหาการทุจรติคอร์รัปชั่น และการแสดงความคิดเห็นต่อสถาบัน  ซึ่งทั้ง 2 ปัญหามีมาแต่โบราณของมนุษย์  จึงต้องเป็นความรับผิดชอบทั้งระบบ  ที่จะปฏิรูปการเมืองการปกครองของประเทศสู่ระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง  ตามที่รัฐธรรมนูญ กำหนดไว้ จวบจนปัจจุบัน เพื่อนำประเทศสู่การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี อย่างแท้จริง.

กระแสประชาธิปไตย กระแสโลก ต้านกระแสประชาธิปไตย ต้านกระแสโลก

กระแสประชาธิปไตย คือกระแสของโลก ซึ่งมีมาตั้งแต่โบราณของมนุษย์และสิ่งมีชีวิต การก่อกระแสปฏิวัติรัฐประหารที่ทำลายกระแสประชาธิปไตย จึงถือได้ว่าเป็นการทวนกระแสโลกของมนุษย์และสิ่งมีชีวิต หรือ กล่าวได้ว่า" เป็นขบวนการก่อการร้าย เพื่อทำลายสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพของมนุษย์ ทุกยุค ทุกสมัย อย่างชัดเจน โดยทำลายชาติ ศาสนา และประชาธิปไตย อย่างเช่นในอดีต และปัจจุบัน ทั้งในประเทศ เช่นเหตุการณ์ 14ต.ค.16,

6ต.ค.19และเหตุการณ์สลายการชุมนุม เมื่อช่วงเดือน เมษายน -พฤษภาคม 2553 และต่างประเทศ บางประเทศ . โดยเฉพาะในประเทศหลังการสลายการชุมนุม ช่วงเดือนเมษายน - พฤษภาคม 2553 มีประชาชนบาดเจ็บล้มตาย ถือว่าเป็นจำนวนมาก ที่ไม่น่าเกิดเหตุการณ์อย่างนั้นขึ้น...โดยเฉพาะกลุ่มที่สลายการชุมนุม ที่ไม่สมควรอย่างเหมาะสมที่สุดในการกล่าวคำว่าว่า"เพื่อชาติ ศาสนาและปกป้องสถาบัน แล้วมีคนตายด้วยคำเหล่านี้ อย่างบิดเบือน ...เพราะหมายถึงวิธีการของกลุ่มคนนิยมระบอบเผด็จการ  ซึ่งใช้วิธีการแก้ปัญหาทางการเมืองที่ต้านกระแสโลกอย่างชัดเจน.
การชุมนุมของกลุ่มเสธ.อ้าย ในนามกลุ่มองค์การพิทักษฺ์สยาม นั้น  ปัจจุบันรัฐธรรมนูญ กำหนดชื่อประเทศว่า ราชอาณาจักรไทย หรือ ประเทศไทย มาตั้งแต่ พ.ศ.2482 ถึง ปัจุบัน เป็นเวลา 73 ปี การย้อนเวลาหาอดีต หาอ่านได้ตามหนังสือประวัติศาสตร์ เท่านั้น ในความเป็นจริง กระแสประชาธิปไตย กระแสโลก คือ ความเป็นจริง ดั่งกระแสของแม่น้ำและมหาสมุทร ย่อมไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ กระแสน้ำไหลจากที่ต่ำขึ้นที่สูง ย่อมผิดธรรมชาติ เพราะต้องใช้วิธีเผด็จการ.
การพัฒนาการสู่ความเป็นมนุษย์ผู้ประเสริฐอย่างแท้จริง นั้น ตามที่มนุษย์ส่วนใหญ่ในโลกนี้ต้องการให้เกิดขึ้นบนพื้นที่ทุกตารางนิ้วของโลก คือ การพัฒนาการของมนุษย์ไปสู่การรู้จักใช้สิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพอย่างมีอุดมการณ์ ด้วยระบอบประชาธิปไตย เพื่อระบอบประชาธิปไตย ที่แท้จริง โดยงดเว้น ละเว้น การแอบอ้างใช้สิทธิเสรีภาพของประชาธิปไตย ก่อกระแสปฏิวัติรัฐประหารระบอบประ ชาธิปไตย ทั้งทางตรงและทางอ้อม การแอบอ้างดั่งกล่าวนี้ เปรียบดั่งการก่อการร้าย ทำลายกระแสประชาธิปไตย ทำลายกระแสโลก ลงอย่างสิ้นเชิง ถ้ามนุษย์ในประเทศและในโลกนี้ ไม่ช่วยกันผนึกกำลังประชาธิปไตย เพื่อแสดงแสนยานุภาพของประชาธิปไตย ตามที่กฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนดให้ เพื่อยับยั้งวิธีการทำลายระบอบประชาธิปไตย ไม่ว่าทั้งทางตรงและทางอ้อม ซักวันหนึ่งระบอบประชาธิปไตย ก็อาจจะหมดไปจากประเทศ หรือจากโลกนี้ไปก็ได้..เมื่อวันนั้นมาถึง ความอัปยศ ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง ก็เกิดขึ้นอย่างซ้ำซาก แม้กระทั่งในปัจจุบัน .
แต่คงไม่นาน ถ้ากระแสประชาธิปไตย กระแสโลก ยอมอ่อนน้อมแต่ไม่ยอมอ่อนแอ คือยึดมั่นในอุดมการณ์ หลักการและวิธีการระบอบประชาธิปไตย  ประเทศไทยต้องมีรัฐธรรมนูญฉบับเต็มประชาธิปไตย และประเทศทั่วโลกคงไม่มีประเทศใดถูกโดดเดี่ยว ในการสร้างและพิทักษ์รักษาประชาธิป.

ประชาธิปไตย คือ ทางช้างเผือก แต่กลุ่มเผด็จการ ไม่ต้องการช้างเผือก

จากการที่เสธ.อ้าย นัดชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาล ถ้าทำสำเร็จ ก็คงจะหารัฐบาลขึ้นมาใหม่ โดยวิธีเผด็จการ ทางตรง แล้วใช้คำพูดว่า..รัฐบาลรักษาการ และเขียนกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการประชาธิปไตย พ.ศ. 2550 หรือไม่ ก็เปลี่ยนขั้วทางการเมือง ตั้งรัฐบาลขึ้นใหม่   โดยวิธีเผด็จการทางอ้อม เพื่อให้ดูว่าได้รัฐบาลมาจากพรรคการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งเช่นกัน แต่ไม่สนใจว่าชนะ หรือแพ้เลือกตั้งก็ตาม ซึ่งวิธีการดังกล่าวนี้ เป็นวิธีที่บิดเบือนและสร้างความเสียหายให้แก่ระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง และลักษณะดังกล่าวนี้ ได้เกิดขึ้นมาแล้วหลังการรัฐประหาร ปี พ.ศ.2549  ส่งผลให้  แม่ทัพ นายกอง  ประชาชน และพรรคการเมืองที่คิดต่างและมีส่วนเกี่ยวข้องในการสร้าง ส่งเสริม สนับสนุนระบอบประชาธิปไตย ด้วยการสร้างสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาค และภราดรภาพ ต้องถูกการบังคับใช้กฏหมายอย่างมีอคติ เชิงเผด็จการนิยม  ลักษณะดังกล่าวนี้  เข้าข่ายการปิดประเทศ และแช่แข็งประเทศโดยจะเห็นว่ามีนักการเมือง ประชาชน ถูกลงโทษคดีทางการเมืองอย่างมีอคติมากมาย ทั้งทางตรงและทางอ้อม  ชี้ให้เห็นว่า คำพูดของ เสธ.อ้าย ประกาศไว้ ถ้าโค่นล้มรัฐบาลในชุึดปัจจุบันลงได้   ในวันที่ 24 พ.ย.2555 หรือวันอื่นๆ จะมีการปิดประเทศและแช่แข็งประเทศ 5 ปี นั้น  คงเกิดขึ้นจริง ถ้าล้มรัฐบาลได้ และเป็นมากกว่าหลังการรัฐประหาร พ.ศ.2549 ด้วยซ้ำ เพราะ 1.ต้องการสกัดกั้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการประชาธิปไตย พ.ศ.2550 ไม่ให้กลายไปเป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาธิไตย พ.ศ.2555. /2.ต้องการสกัดกั้น พ.ร.บ.การปรองดองแห่งชาติ พ.ศ. ..../3. ต้องการสกัดกั้นความเจริญงอกงามของระบอบประชาธิปไตย หรือการมีสิทธิเสรีภาพความเสมอภาคและภราดรภาพ ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ของสามัญชน . ในการเดินเกมทางการเมือง มีการใช้กลยุทธ์เช่นเดียวกับการก่อรัฐประหาร และหลังรัฐประหาร พ.ศ.2549 -2553 .

ดังนั้น   เพื่อชาติ ศาสนา และประชาธิืปไตย โดยประชาชนคนไทยทุกเชื้อชาติ ศาสนา ได้แสดงพลังด้วยระบอบประชาธิปไตยอย่างสันติ และมิตรประเทศทั่วโลก ได้ช่วยส่งพลังประชาธิปไตย เพื่อต่อต้านและสกัดกั้นการทำลายระบอบประชาธิปไตย ของคนทุกกลุ่ม ทุกช่วงเวลา ที่จะก่อการก่อการปฏิวัติรัฐประหารระบอบประชาธิปไตย เพื่อนำประเทศไทยสู่ระบอบเผด็จการแบบเบ็ดเสร็จ คือ ประชาชนส่วนใหญ่ถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพ ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และโดยเฉพาะทางการเมือง  ซึ่งตามมาตรฐานประชาธิปไตยของโลกสากลถือว่าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญของแต่ละประเทศ นั้นๆ ว่ามีการปกครองด้วยระบอบเผด็จการ หรือประชาธิปไตย การบอกว่าประเทศมีความเป็นประชาธิปไตย เฉพาะการมีสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพ ทางด้านเศรษฐกิจ และสังคม  คงไม่ได้ เพราะสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพทางการเมือง คือ ความต้องการของมนุษยชาติ ที่ีมีมาตั้งแต่โบราณกาล เพื่อให้ได้สิทธิเสรีภาพทางด้านอื่น ๆ ตามมา.

ชาติ ศาสนา ประชาธิปไตย

ประเทศไทย ตั้งแต่อดีตกาล  มนุษย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้สังเวยชีวิตทั้งแบบทางตรงและทางอ้อมให้กับ คำว่า "ราชอาณาจักรไทย " ทั้งแบบตั้งใจและไม่ตั้งใจ  รวมถึงปัจจุบันนับแสน นับล้านชีวิต  ในอดีตจะเห็นแล้วว่า การเป็นผู้นำ ผู้ตามในสังคมท้องถิ่น ถึง ระดับประเทศ และ ระดับโลก  ประเพณีวัฒนธรรม คือ การใช้อำนาจเผด็จการ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าประเทศนั้นๆปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ หรือแบบเผด็จการทางทหาร เช่นในแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์หรือผู้ฝักใฝ่ในระบบนี้  ประเพณีวัฒนธรรม ในการปกครองและการอยู่ในสังคม  คือการใช้อำนาจเผด็จการของสมมุติเทพ ทั้งทางตรงและทางอ้อม  ในส่วนของผู้ฝักใฝ่ในระบบเผด็จการทหาร  ประเพณีวัฒนธรรมในการปกครองและอยู่ในสังคม คือ การใช้ความเป็นเผด็จการของทหารทั้งทางตรงและทางอ้อม  ซึ่งทั้งสองระบบนี้จะเข้าครอบงำทุกภาคส่วนของประเทศทุกระดับ เพื่อสกัดกั้นการมีสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรของสามัญชน ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และโดยเฉพาะทางการเมือง เพราะบุคคลกลุ่มนี้มีความหวาดระแวงเป็นสำคัญ ด้วยเพราะอำนาจ บารมี ยศฐาบรรดาศักดิ์ ไม่ได้เกิดขึ้น โดยระบอบประชาธิปไตย อย่างแท้จริง  .
ปัจจุบัน การที่มนุษย์ จะอยู่กันอย่างสันติสุข มีิสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพ ใกล้ความเป็นบรรทัดฐานของการสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาค และภราดรภาพของมนุษยชนโลก และหลีกเลี่ยงการใช้อำนาจเผด็จการตามแนวทางของโบราณ ทั้ง 2 ระบบ ดังกล่าวข้างต้น  คือ การปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย เพราะการปกครองด้วยระบอบนี้ สร้างโอกาส เปิดโอกาสให้มนุษย์ มีสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาค ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ด้วยว่าสรรพสิ่งในประเทศและโลก ไม่มีสิ่งใดเป็นของตัวเอง แม้กระทั่งชีวิตของตนเอง.
ดังนั้น  การต่อต้าน การทำปฏิวัติรัฐประหารระบอบประชาธิปไตย  ในประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงไม่ใช่หน้าที่ของของคน/กลุ่มคนในประเทศใดประเทศหนึ่ง ที่มีเจตนารมณ์  ที่ทำเพื่อ...ชาติ  ศาสนา(ทุกเชื้อชาติ) และประชาธิปไตย  แต่ เป็นหน้าที่ ด้วยความตระหนักของมนุษย์ในโลกนี้ ที่มีอุดมการณ์ทำให้มนุษย์ ไม่ว่าเชื้อชาติใด ศาสนาใด ได้อาศัยอยู่ในโลกนี้อย่างมีสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพ ด้วยระบอบประชาธิปไตย จนกว่าชีวิตจะหาไม่...ถึงเวลาประเทศไทยและมิตรประเทศ  ต้องปฏิวัติรัฐประหารด้วยประชาธิปไตย  คน/กลุ่มคน ที่ออกมาหรือจะออกมาส่งเสริม สนับสนุนและทำการปฏิวัติรัฐประหารรัฐบาลที่มาจากระบอบประชาธิปไตย เพื่อป้องกันและแก้ไขการฆ่า นักศึกษาและประชาชน ไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำรอยประวัติศาสตร์ที่อัปยศ อีกต่อไป.

เพื่อ...ชาติ (สรรพสิ่งในประเทศบนพื้นโลก) ศาสนา และประชาธิปไตย

คิดโดยใช้จิตสำนึก ของการมีสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพ  ระบบสังคมและประเทศ ต้องเป็นระบบให้โอกาสคนทุกคนอย่างเสมอภาค  เพราะประเทศยังมีคนตกงานอีกเยอะ โดยฉพาะคนรุ่นใหม่ๆ เก่งๆมีจำนวนมากมาย แต่ขาดโอกาส เพราะกฏหมายของประเทศบางฉบับสร้างความผูกขาดในการเป็นผู้นำทางสังคม ดั่งโบราณ.  ดังนั้น คนรุ่นเก่าเมื่อถึงเวลาอันควรก็ควรต้องถอย ไม่ควรผูกขาดอยู่กับตำแหน่งในสังคม และในระดับประเทศ การแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการดำรงตำแหน่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านจากดำรงตำแหน่ง จนถึง 60 ปี เป็นดำรงตำแหน่ง 5 ปี หมดวาระนั้น  คิดอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีอคติต่อฝ่ายใด การแก้ไขกฎหมายดังกล่าว สร้างความไม่พอใจ ให้กับเฉพาะผู้เกี่ยวข้องในลักษณะเชิงอนุรักษ์นิยม ถึงอนุรักษ์นิยมขวาจัด เท่านั้น   แต่ระบอบประชาธิปไตย  ถือว่าเป็นการปฏิรูป เพื่อสร้างโอกาสให้คนทุกคนได้มีสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาค และภราดรภาพ อย่างแท้จริง ทั้งระบบ.

ในกฎหมายกำหนดให้ผู้มีอายุ 20 บริบูรณ์เป็นผู้บรรลุนิติภาวะ ฉะนั้น หมายความว่า ผู้มีอายุ ตั้งแต่ 20 ปีขึ้น มีความรับผิดชอบต่อตนเอง ต่อสังคม และประเทศชาติ  บุคคล ดังกล่าวควรต้องมีโอกาสได้รับใช้สังคมและประเทศชาติและอยู่ในตำแหน่ง ตามระบอบและวาระของระบอบประชาธิปไตย  นี้เป็นระบบของการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้คนทุกคนได้เข้าถึงและอยู่ในตำแหน่ง ในสิ่งที่ตนเองมุ่งหวัง ในเวลาอันเหมาะสม ตามระบอบประชาธิปไตย ต่อไปน่าจะแก้ไขกฎหมายให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ให้หมด  เมื่อผู้นำในระดับหมู่บ้าน ตำบล  อำเภอ และจังหวัด ได้มาและอยู่ตามวาระของระบอบประชาธิปไตย  คนในสังคมและประเทศ จึงจะมีเหตุผลมากขึ้นในเชิงวิทยาศาสตร์ หรือเชิงศาสนาที่แท้จริง ดั่ง หลักศาสนาที่แท้จริง ที่ไม่อิงโหราศาสตร์ คือ อริยสัจสี่   เมื่อนั้น คนทุกคนก็มีสิทธิ มีเสรีภาพ และรู้จักใช้สิทธิ ใช้เสรีภาพไปในทางที่เหมาะสม สร้างความก้าวหน้าให้ตนเองและประเทศชาติ อย่างมีความเสมอภาคและ ภราดรภาพ ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง อย่างแท้จริง.

ดั่งพระบรมราชโองการของร.6ในการประกาศใช้พระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่พุทธศักราช ๒๔๕๗ ดังนี้ "

มีพระบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ดำรัสเหนือเกล้าฯ ให้ประกาศทราบทั่วกันว่า เมื่อในรัชกาลแห่งสมเด็จพระบรมชนกนารถ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ขึ้นเมื่อ พระพุทธศักราช ๒๔๔๐ และได้ใช้พระราชบัญญัตินั้นเป็นแบบแผนวิธีปกครองทั่วพระราชอาณาจักร อันอยู่ภายนอกจังหวัดกรุงเทพฯ มาจนบัดนี้ พระราชบัญญัติอื่น ๆ อันเนื่องด้วยวิธีปกครองราษฎร ซึ่งตั้งขึ้นภายหลังต่อมา ได้ยึดพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่นี้เป็นหลักอีกเป็นอันมาก เพราะฉะนั้นพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ นับว่าเป็นพระราชบัญญัติสำคัญในการปกครองพระราชอาณาจักรอย่างหนึ่ง

ตั้งแต่ ได้ตราพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ ในพระพุทธศักราช ๒๔๔๐ มา วิธีปกครองพระราชอาณาจักรได้จัดการเปลี่ยนแปลงดำเนินมาโดยลำดับหลายอย่าง ทรงพระราชดำริเห็นว่า ถึงเวลาอันสมควรที่จะแก้ไขพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ให้ตรงกับวิธี การปกครองที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้แก้ไขพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ รัตนโกสินทร ศก ๑๑๖ ของเดิม แห่งใดที่ยังใช้ได้ให้คงไว้ แห่งใดที่เก่าเกินกว่าวิธีปกครองทุกวันนี้ ก็แก้ไขให้ตรงกับเวลารวบรวมตราเป็นพระราชบัญญัติไว้ สืบไปดังนี้ ฯ " ( พระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่พุทธศักราช ๒๔๕๗ )

จากพระบรมราชโองการข้างต้น พระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้อง พุทธศักราช 2457 ได้มีการแก้ไขปรับปรุงให้เหมาะกับปัจจุบัน เรื่อยมา ไม่ตายตัว.  ในปัจจุบัน รัฐลบาลจะแก้ไขกฎหมาย ดังกล่าว เกี่ยวกับการดำรงตำแหน่งของผู้ใหญ่บ้านและกำนัน ก็เป็นการสร้างสิทธิให้คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันและอนาคต  ซึ่งถือว่าเป็นการต่อยอด ปฏิรูปให้เข้ากับยุคสมัย ดั่งเหตุผลข้างต้น ซึ่งเป็นการคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพของมนุษยชาติ อย่างแท้จริง.  ด้วยโลกในปัจจุบันและอนาคต คำนึ่งถึงสิ่งเหล่านี้เป็นสำคัญ การเปลี่ยนแปลงไม่วันนี้ ก็วันหน้า ไม่อย่างนั้น ประเทศไทยปัจจุบัน ก็คืออาณาจักรสุโขทัย เป็นต้น เพราะมนุษย์  เปลี่ยนแปลงตามกาลเวลาโลก แม้กระทั่ง สหราชอาณาจักร ประเทศต้นแบบฉบับ การปกครองแบบราชาธิปไตย ยังต้องผ่านการปฏิวัติ ระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ สู่ระบอบประชาธิปไตย มาแล้ว  ที่เรียกว่าปฏิวัติอันรุ่งโรจน์ ในปี ค.ศ.1688  แต่ไม่มีประเทศใดในโลกที่ปฏิวัติรัฐประหารประเทศ กลับสู่แนวทางเดิม หรือคงไว้แบบเดิมๆที่ไม่มีการปฏิรูป แก้ไข พัฒนา เพราะอย่างนั้น หมายถึง การคงไว้ระบอบเผด็จการ อย่างสิ้นเชิง  การที่ออกมาต่อต้านแล้วยก ชาติ ศาสนา และบอกว่าปกป้องสถาบัน เป็นการสร้างความชอบธรรมอย่างบิดเบือน.

 ไม่มีประเทศในโลกประชาธิปไตย ที่แท้จริงที่ไหน  ยินดี หรือสนับสนุน อย่างแท้จริง ในการต่อต้านการพัฒนาประชาธิปไตย เพราะระบอบแบบเดิม และแนวทางเดิมๆ เป็นระบอบทีขัดแย้งกับหลักสิทธิมนุษยชน และระบอบประชาธิปไตย ที่แท้จริง.  จากผลการวิจัย  ผู้นำของสังคมและประเทศชาติ ไม่สมควรดำรงตำแหน่งเกิน 8 ปี ทั้งนี้ เพราะผลการวิจัยสนัสนุนว่า เป็นการให้สิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาค และภราดรภาพ แก่ มนุษย์ทุกคน ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง อย่างแท้จริง โดยคำนึง ถึงสรรพสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกเป็นสำคัญ ยกเว้น อำนาจของยศฐาบรรดาศักดิ์ เพราะสิ่งนี้ คือกิเลสอธรรมของมนุษย์  ที่มนุษย์โลกไม่ต้องการ จนเกิดการปฏิวัติรัฐประหารการเมืองการปกครองในประเทศต่างๆทั่วโลก สู่ระบอบประชาธิปไตย ที่แท้จริง.

ในการสร้างกระแสปฏิวัติรัฐประหารของกลุ่มเสธ.อ้ายและผู้สนับสนุน และอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับภาครัฐในปัจจุบัน ไม่ถือว่าเป็นการสร้างกระแสและสนับสนุนให้เกิดการปฏิวัติรัฐประหาร เพื่อนำสังคมและประเทศชาติ สู่ระบอบประชาธิปไตย อย่างแท้จริง แต่เป็นการสร้างกระแสและสนับสนุนการปฏิวัติรัฐประหาร โดยกล่าวอ้างสิทธิเสรีของระบอบประชาธิปไตย เพื่ออนุรักษ์นิยม เป็นสำคัญ แต่ไม่ได้หมายถึง ทำเพื่อ ชาติ(สรรพสิ่งในประเทศ) ศาสนา และประชาธิปไตย อย่างแท้จริง นอกจากทำเพื่้อให้ประชาธิปไตยไทย ใส่ไส้อนุรักษ์นิยม เป็นสำคัญ  ประเทศจึงเคลื่อนตัวไปข้างหน้าได้ช้า และถูกดึงลงคลองน้ำเน่านับครั้งไม่ถ้วน  จึงไม่ต้องสังสัยว่า ทำไมการศึกษา ศาสนา  ปัญหาภาคใต้ ปัญหาทางการเมือง ปัญหายาเสพติด ฯและเศรษฐกิจ จึงแก้ไขได้แบบไฟไหม้ฟาง และย้ำอยู่ที่เดิม.  ปัญหาประเทศ ไม่ใช่หน้าที่ของคณะกรรมการ คปอ.ที่มาค้นหาความจริง แต่เป็นหน้าที่ของคนทั้งประเทศ ตามกระบวนการของระบอบประชาธิปไตย อย่างแท้จริง.