จุดจบของพรรค ปชป.ในระบอบประชาธิปไตย
และเป็นระบบเผด็จการเสียงข้างน้อยทั้งในสภาและนอกประชา
นี้คือพื้นฐานของนาซีธิปไตยของไทยโดยแท้จริง
คนเหล่านี้จริงๆแล้วไม่ใช่มนุษย์ที่ฝักใฝ่ในระบอบ
ประชาธิปไตย
แต่เป็นพวกที่ยังฝั่งตัวและจิตใจในอดีต
สิ่งใดที่ตนเองคิด สิ่งใดที่ทำ
มันคือความถูกต้องและชอบธรรมของคนเหล่านี้
สิ่งใดที่มนุษย์คนอื่นคิดและทำ
สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ผิดและไม่ชอบธรรมของพวกเขา ต้องต่อต้านทุกวิถีทาง คนกลุ่มนี้จริงแล้ว คือ ผู้ที่นิยมในระบบศักดินา
หรือสมบูรณาญาสิทธิราชย์. จะสังเกตประเทศระบอบประชาธิปไตย ที่จะมีการปฏิรูปสิ่งใดในประเทศ
เขาใช้ระบอบประชาธิปไตย โดยรัฐสภา
และหรือประชามติจากประชาชนเป็นสำคัญ ผลเป็นประการใดทุกคนควรยอมรับ
แต่ถ้าประเทศใดปกครองแบบเผด็จการ การเปลี่ยนแปลงสิ่งใด จะไม่ได้รับการตอบสนอง
ซ้ำร้ายผู้เลือกร้องจะได้รับโทษทั้งทางตรงและทางอ้อม. ประเทศไทย
คนส่วนน้อยยังใช้อำนาจ บารมีกดขี่และทำลายความคิดของคนส่วนใหญ่ คนพวกนี้ยังใช้ความคิดแบบไทยโบราณ คือ
ห้าม..และ อย่าให้คนอื่นทำในสิ่งที่อยู่เหนือความคิดของตนเอง คนไทยในภาพรวมจึงขาดความคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ นี้คือการทำลายความคิดสร้างสรรค์ขั้นพื้นฐานของมนุษย
การทำให้ประชาชนมีความคิดสร้างสรรค์พัฒนาประเทศ
ต้องริเริ่มตั้งแต่การปกครองให้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง
อย่างประเทศที่พัฒนาแล้ว เขาปล่อยอิสระความคิดของประชาชน จนมีนักปรัชญา
นักวิทยาศาสตร์ สร้างสิ่งอำนวยความสะดวกขึ้นมามากหมายในโลกนนี้ ในอดีตส่วนใหญ่เป็นคนอเมริกาและยุโรป
ปัจจุบัน เพิ่มมากขึ้น คนอเมริกา ยุโรปและเอเชีย เช่นญี่ปุ่น เกาหลีใต้
หรือแม้กระทั่งจีนเอง.
ดังนั้น การที่มีกลุ่มคนพยายามต่อต้านการพัฒนาประเทศทั้งทางการเมือง
เศรษฐกิจและสังคม ถือว่าเป็นการทำลายความคิดสร้างสรรค์ขั้นพื้นฐานของประชาชนอย่างแท้จริง.ปชป.และพันธมิตร
ถือว่าเป็นกลุ่มบุคคลเหล่านี้
ความจริงของ
ปชป.และพันธมิตรได้ลอยขึ้นเหนือน้ำอีกครั้ง
และได้ตอกย้ำการล่มสลายในระบอบประชาธิปไตยของปชป.แบบฝังทั้งเป็นด้วยตนเองลงลึกไปอีก
คือนี้การปฏิบัติตัวแบบประชาธิปไตยของพวกบริวารอำมาตย์ พวกนี้กฏหมายทำอะไรไม่ได้
ประเทศไทยในยามนี้ถือได้ว่ากระบวนการทางกฏหมายและการบังคับใช้กฏหมาย
ไม่มีความยุติธรรมเหลืออยู่แล้วก็ว่าได้
เพราะการบังคับใช้กฏหมายไม่อยู่บนพื้นฐานโดยยึดประชาชนเป็นสำคัญอย่างเท่าเทียมกัน มีการบังคับใช้กฏหมายอย่างเอนเอียงเห็นได้ชัด
นี้คือจุดนำพาให้ประเทศแตกแยกอย่างแท้จริงและเพิ่มมากขึ้น. ดังเห็นจาก เช่น
คดีนายสนธิ พันธมิตรและพวกพ้องยึดสนมบินสุวรรณภูมิ ยึดทำเนียบรัฐบาลเมื่อปี2549
ปํจจุบันพวกนี้ก็ยังจะปฏิบัติตัวเช่นเดิม โดยไม่มีการรับโทษใดๆ
ซึ่งต่างจากประชาชนอีกลุ่มหนึ่ง พรรคการเมืองพรรคหนึ่งหรือหลายพรรคยกเว้น
ปชป.กลับได้รับการลงโทษอย่างอย่างเผด็จการนิยม. มันของจริง
ทีคนพวกนี้ไม่ได้ทำเพื่อประชาชนทุกคนอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกันอย่างแท้จริง
วิธีการของคนกลุ่มนี้คือคลุมถุงชนให้คนเชื่อใรความคิด
ชี้ว่าผิดเมื่อมีคนคิดต่าง.
ประเทศที่ปกครองระบอบคอมมิวนิตส์ คือประเทศประชาธิปไตยแบบซ้ายสุด ประเทศที่ปกครองแบบประธานาธิบดี
และกึ่งประธานาธิบดี คือประเทศประชาธิปไตยขวาสุด
นอกนั้นเป็นแบบเผด็จการ และกึ่งเผด็จการ.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น