วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

สีเลือดเดียว

โดย สีเลือดเดียว เมื่อ30 พ.ค.2554
คนเรามีสีเลือดเดียวไม่ต่างกัน แต่ทัศนคติอาจแตกต่างกันแต่ไม่ผิด เพียงขอให้แข่งขันกันตามแนวทางระบอบประชาธิปไตย โดยเสนอแนวคิด นโยบายให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน เพราะมิฉะนั้นแล้วการกระทำใดๆที่ผิดไปตามแนวทางการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ก็หมายความว่า บุคคลนั้น กลุ่มบุคคลนั้นๆ มีเจตนาพยายามหักล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย   ประเทศไทยเดินมาไกลแล้ว ผมคนหนึ่งจะพยายามต่อต้านสื่งเหล่านั้นเพื่อคนส่วนใหญ่ของประเทศ  เพราะถือว่าแนวคิดดังกล่าวสร้างความแตกแยกกับคนส่วนใหญ่
 จะยอมรับหรือไม่ยอมรับไม่ใช่จุดหมาย  ประเทศไทยถ้าต้องการพัฒนาไปสู่ความเป็นประเทศพัฒนาด้านเศรษฐกิจ การเมืองการปกครอง เหมือนอย่างที่ประเทศพัฒนาแล้วเป็นอยู่ ต้องพยายามลดระบบราชการลงให้มากๆ เพราะถ้ามีอยู่ในประเทศใดมากๆระบบนี้ขัดขว้างการเจริญเติบโตของระบอบประชาธิปไตย 

ประชาธิปไตย

จะได้ดูกันต่อไปว่าประชาธิปไตยของไทยจะไปไกลขนาดไหน  การปฏิวัติรัฐประหารไม่มี กลุ่มบุคคลนอกสภาอยู่ในกฏ กติการะบอบประชาธิปไตย  พรรคที่ชนะการเลือกตั้งบริหารประเทศตามนโยบายที่ให้ไว้กับประชาชน กลุ่มใด พรรคใดที่แพ้การเลือกตั้งตรวจสอบการทำงานอย่างสร้างสรรค์ที่แท้จริง  ในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่อยู่ในประเทศที่อยู่ในระบอบประชาธิปไตยขอสนับสนุนพรรคที่ชนะการเลือกตั้งเป็นพรรคจัดตั้งรัฐบาล เพราะถือว่าชนะด้วยระบอบประชาธิปไตย  เพราะถ้าไม่เป็นไปตามผลการเลือกตั้ง ความปรองดอง ความสามาคคีในชาติที่ทุกคนพูดจากปากหรือจากใจ จะเป็นแค่ความฝัน

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เลือกตั้งด้วยพลังใจ

การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรที่จะมาถึงในวันที่ 3 กรกฎาคม 2554  

ก้าวแรก ก้าวใหม่ ประชาธิปไตยของไทย

เป็นอีกครั้งหนึ่งที่จะมีการเลือกตั้ง เพื่อเลือกตัวแทนประชาชนที่จะเข้ามาบริหารประเทศชาติ นำพาประชาชนของชาติ และประเทศไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง ซึ่งเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง ที่ผู้แทนประชาชนต้องมาจากการเลือกตั้ง  ในความเป็นจริงเราต้องยอมรับว่า มีฝ่ายอนุรักษ์นิยม ฝ่ายเสรีนิยม หรืออื่นๆ ฉะนั้น ในประเทศประชาธิปไตยจริง ต้องเปิดกว้างบนเวทีการเลือกตั้ง ตามกฏ และกติกาที่ปราศจากการแทรกแซงของกลุ่มอำนาจใดๆ โดยให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินว่าจะเลือกพรรคใด กลุ่มใด ไปบริหารประเทศ  ซึ่งเมื่อพรรคใด กลุ่มใดได้คะแนนเสียงข้างมากในการเลือกตั้ง ก็ต้องหมายความว่าประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศมีความต้องการให้เป็นผู้นำในการบริหารประเทศเพื่อนำพาประชาชนและประเทศชาติเดินหน้าสู่ความเจริญ ตามนโยบายที่ประกาศให้สาธารณชนได้ทราบโดยทั่วกัน
ดังนั้น  จึงถือว่าพรรคที่ชนะการเลือกตั้ง เป็นผู้มีสิทธิ์ในการจัดตั้งรัฐบาล และพรรคอื่นๆควรส่งเสริมสนับสนุนตามมารยาททางการเมืองในระบอบประชาธิไตยอย่างแท้จริง  ในอนาคตประเทศไทยคงมีนายกรัฐมนตรีอยู่ครบ2วาระ  เพราะคนส่วนใหญ่ต้องการเสรีภาพตามกฏกติกาที่เสรีภาพ และปรับตัวเข้ากับหลักเสรีภาพมากขึ้น ฉะนั้นการทำงานของคน กลุ่มบุคคล ทีเป็นตัวแทนของประชาชนต้องมีการพัฒนาเป็นไปเพื่อประชาชน และประเทศชาติอย่างเป็นรูปธรรม และประชาชนได้รับผลโดยตรง